ตรัง - ประธานเครือข่ายชาวสวนยางภาคใต้ ร้อง คสช. และนายกฯ คนใหม่ เร่งช่วยเหลือราคายางตกต่ำ พร้อมเสนอเปลี่ยนตัวปลัดกระทรวงเกษตรฯ ทันที เหตุไม่เข้าใจปัญหา และเข้าข้างนายทุน เผยหาก คสช. ยังนิ่งเฉยเตรียมออกมาชุมนุม และปิดถนนอีกครั้ง
วันนี้ (25 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์สฤษดิ์ ศรีประศาสตร์ ประธานองค์กรภาคีเครือข่ายชาวสวนยางรายย่อยภาคใต้ กล่าวถึงปัญหาราคายางตกต่ำว่า ล่าสุด องค์กรภาคีเครือข่ายได้ยื่นหนังสือที่ศาลากลางจังหวัดต่างๆ เพื่อเรียกร้องไม่ให้ คสช. ขายยาง 200,000 ตัน ให้แก่พ่อค้าคนกลาง และช่วยเหลือปัจจัยในการผลิต ส่วนสิ่งที่องค์กรภาคีเครือข่ายกำลังดำเนินการก็คือ รณรงค์ให้พี่น้องเกษตรกรหยุดกรีดยาง หรือหยุดขายยางไม่น้อยกว่า 6 เดือน และอยู่ในช่วงหารือเรื่องการกำหนดเวลาจะเริ่มช่วงไหน อย่างไร และจะมีมาตรการออกมาเร็วๆ นี้ เพื่อที่จะไม่ให้พ่อค้าคนกลางเอาเปรียบเกษตรกรอีกต่อไป
ดังนั้น จึงขอให้ คสช.อย่าตกเป็นเครื่องมือของพ่อค้าคนกลาง พร้อมเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในทันที เพราะคนปัจจุบันทำให้เกษตรกรชาวสาวยางเดือดร้อนมาโดยตลอด หากไม่เปลี่ยนคนกลุ่มนี้อาจจะไปร่วมมือกับพ่อค้าคนกลาง จนทำให้เกษตรกรเกิดความเดือดร้อน และทำให้ราคายางดิ่งลงเรื่อยๆ จนต่ำกว่า 50 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งที่ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 60 กว่าบาทต่อกิโลกรัม วอน คสช.ให้ความสำคัญ เพราะยางเป็นพืชพิเศษกว่าพืชอื่นๆ มิฉะนั้นมันจะเป็นความเหลื่อมล้ำต่อคนในภูมิภาคแล้วจะโยงไปในปัญหาอื่นๆ
หลังจาก คสช.เข้ามาช่วยเหลือชาวนา โดยใช้เวลาแค่เดือนเดียวก็ได้รับเงินทั่วถึง 1 แสนล้าน แต่ของชาวสวนยางที่บอกว่าจะช่วยเหลือ 6,000 กว่าล้าน ผ่านมา 3 เดือนแล้วยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าว นี่ถือเป็นความเหลื่อมล้ำ ส่วนเรื่องการชุมนุมบนท้องถนนนั้นขณะนี้องค์กรภาคีเครือข่ายยืนยันว่ายังไม่มี แต่จะออกไปรวมตัวกันบ้างในพื้นที่สาธารณะที่ไม่ผิดกฎหมาย และไม่ใช่เป็นการชุมนุมทางการเมือง เพื่อเรียกร้องให้ คสช. รัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นถึงความสำคัญ และความเดือดร้อนของชาวสวนยาง ไม่ใช่ออกมาขู่ เพราะถ้าหากพวกเขาเดือดร้อนจริงก็จะไม่กลัว และสุดท้ายอาจจะต้องออกมาชุมนุม หรือปิดถนนอีกครั้ง