นครศรีธรรมราช - นายกสมาคมชาวสวนยางนครศรีธรรมราช เตรียมเสนอร่างแผนจัดการยางพาราทั้งระบบต่อคณะ คสช. หลังราคายางตกอย่างหนักในรอบหลายปี ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพอย่างหนัก แนะควรส่งเสริมให้มีการใช้ยางพาราในประเทศมากขึ้น สกย.คิดใหม่ยกเลิกการส่งเสริมปลูกยางเชิงเดี่ยว
วันนี้ (22 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครศรีธรรมราช ปัญหาราคายางพาราตกต่ำยังคงส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจในท้องถิ่นหลายด้านด้วยกัน โดยเฉพาะการจับจ่ายใช้สอยในเรื่องค่าครองชีพประจำวันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยล่าสุดนั้น ราคายางพาราในท้องถิ่นอยู่ที่ 46-48 บาทเท่านั้น ในขณะที่ราคาประมูลในตลาดกลางยางพารา อยู่ที่ประมาณ 51 บาทเศษ
นายสมยศ รักษาวงศ์ นายกสมาคมชาวสวนยางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าขณะนี้อยู่ในระหว่างการเตรียมจัดทำข้อเสนอของเกษตรกรเพื่อเสนอไปยัง คสช.ประกอบกับร่าง พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย ที่เกษตรกรไม่เห็นด้วยอยู่แล้วในหลายประเด็นด้วยกัน ขณะที่ปัญหาราคายางตกต่ำในขณะนี้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตการครองชีพของเกษตรอย่างหนัก หมูราคากิโลกรัมละ 160 บาท เนื้อวัวกิโลกรัมละ 220 บาท แต่ยางพารากิโลกรัมละ 47 บาท
นายกสมาคมชาวสวนยางนครศรีธรรมราช ยังแสดงความเห็นอีกว่า ในประเทศไทยเองรัฐควรส่งเสริมให้มีการใช้ยางพาราในประเทศมากขึ้น การระบายยางในประเทศออกสู่ตลาดต่างประเทศ ยังมีปัญหาเรื่องสต๊อกในมือรัฐบาลมีอยู่ 2 แสนตัน ในมือพ่อค้ามีอีกมากที่ส่งออกไม่ได้ จีนเคยสั่งปีละ 1.3 ล้านตัน ตอนนี้เหลือแค่ 2 แสนตัน เหลือ 1.2 ล้านตัน บวกกับสต๊อกรัฐอีก 2 แสน ก็ยังเหลืออยู่ในประเทศ
ดังนั้น ในทางเศรษฐกิจเรื่องอะไรที่จะซื้อของแพงเพราะมีของเหลืออยู่ในประเทศอีกมาก นอกจากนั้น สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ควรปรับวิธีการส่งเสริมปลูกยางพารา เดิมจากการปลูกยางเชิงเดี่ยว ควรปรับเป็นปลุกยางพาราเป็นเศรษฐกิจผสมผสาน ระหว่างร่องยางพาราควรมีพืชเชิงซ้อนเพื่อสร้างรายได้เข้าไปด้วย เช่น กระวาน หรืออย่างอื่น