ตรัง - ตร.ตรัง เผยเหตุไฟฟ้าตู้ ATM ช็อต “น้องใบหยก” เกิดจากกระแสไฟฟ้าตีกลับจากปั๊มน้ำมันหลังเปิดไฟโลโก้ในช่วงเวลากลางคืน โดยได้เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำแล้วรวม 5 ราย ซึ่งขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 70% คาดใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนยื่นสำนวนให้อัยการส่งฟ้องศาล
จากกรณีที่ ด.ญ.ปาริฉัตร หนูพินิจ หรือน้องใบหยก อายุ 2 ขวบ 2 เดือน ถูกกระแสไฟฟ้าช็อตที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถนนตรัง-ปะเหลียน ในเขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 7 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา จนต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง เป็นเวลาถึง 8 วัน ก่อนอาการทรุดหนัก และแพทย์จำเป็นต้องถอดเครื่องช่วยหายใจเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 สิงหาคม โดยความยินยอมของ นางสุกัลยา หนูพินิจ ผู้เป็นแม่ และญาตินั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (16 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ต.สาโรจน์ ช่องรักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.ย่านตาขาว พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีนี้ กล่าวว่า ผลจากการลงพื้นที่ตรวจสอบตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกันระหว่างวิศวกรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จังหวัดตรัง กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า กระแสไฟฟ้าไม่ได้รั่วจากตู้เอทีเอ็มดังกล่าวโดยตรง แต่เป็นลักษณะของการโอเวอร์โหลด ซึ่งเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน หลังจากที่เปิดตู้ไฟโล้โก้ของปั๊มน้ำมันเอสโซ่แล้ว
ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงดังกล่าวจะมีการใช้กระแสไฟฟ้าภายในปั๊มน้ำมันสูงกว่าปกติ จึงเกิดการย้อนกลับมายังตู้เอทีเอ็ม เมื่อน้องใบหยก ไปจับในส่วนที่เป็นโลหะ จึงถูกกระแสไฟฟ้าช๊อตเข้าใส่อย่างจัง ประกอบกับผลจากการสอบปากคำพนักงานปั๊มน้ำมัน จำนวน 2 ปาก พบว่าเคยเจอกระแสไฟฟ้ารั่วจากตู้เอทีเอ็มดังกล่าว จึงประสานไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ให้รับทราบ แต่ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในช่วงเวลากลางวัน จึงไม่พบประเด็นของปัญหา เพราะเป็นช่วงที่ยังไม่ได้มีการเปิดตู้ไฟโล้โก้ของปั๊มน้ำมันเอสโซ่
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนคงต้องรอผลสรุปที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำมาประกอบสำนวน และแจ้งข้อหาผู้ที่กระทำความผิดต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นธนาคาร ปั๊มน้ำมัน ผู้รับเหมาติดตั้งตู้ไฟโล้โก้ หรือผู้รับเหมาติดตั้งตู้เอทีเอ็ม พร้อมดูว่าที่ผ่านมา ได้มีการบำรุงดูแลรักษาทุกอย่างตามระบบความปลอดภัยดีหรือไม่อย่างไร รวมทั้งยังจะต้องทำการตรวจสอบให้แน่ชัดด้วยว่า กรณีของกระแสไฟฟ้าที่ช็อตในครั้งนี้ เกิดมาจากความประมาท หรือเหตุสุดวิสัยกันแน่
สำหรับบุคคลที่ถูกเรียกมาสอบให้ปากคำในคดีนี้ เบื้องต้นได้ดำเนินการไปแล้วประมาณ 5 ราย โดยมีทั้งธนาคาร ปั๊มน้ำมัน พ่อ และพี่สาวของน้องใบหยก ที่เห็นเหตุการณ์ขณะถูกกระแสไฟฟ้าช็อต ยังเหลืออีกบางส่วน เช่น นางสุกัลยา หนูพินิจ ผู้เป็นแม่ของน้องใบหยก โดยกำลังรอให้การจัดงานศพเสร็จสิ้นลงเสียก่อน ถือว่าคดีโดยภาพรวมมีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 60-70% ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดนี้จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชา และอัยการจังหวัดตรัง เพื่อสั่งฟ้องต่อไป