ตรัง - ประชาชนชาวตรังหวั่นใช่ตู้เอทีเอ็ม หลังเกิดไฟช็อต “น้องใบหยก” อาการสาหัส ขณะที่ตำรวจยังไม่แจ้งข้อหาผู้ใด ต้องรอผลการสอบสวนที่ชัดเจน ด้านเจ้าหน้าที่ กฟผ. ลงสอบแผงวงจรจ่ายไฟฟ้าแล้ว ผกก.สภ.ย่านตาขาว ย้ำเยียวยาผู้เสียหายเป็นสิ่งสำคัญสุด
จากกรณีที่ ด.ญ.ปาริฉัตร หนูพินิจ หรือ “น้องใบหยก” อายุ 2 ขวบ 2 เดือน ถูกกระแสไฟฟ้าช็อตที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถนนตรัง-ปะเหลียน ในเขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง จนอาการสาหัส ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 7 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันนี้ (15 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประชาชนที่เคยใช้บริการตู้เอทีเอ็มดังกล่าว ต่างให้ความเห็นว่า ไม่กล้าเข้าไปกดเงินอีกแล้ว เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย รู้สึกสลดใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อ น้องใบหยก ขณะที่พนักงานเติมน้ำมันของปั๊มเอสโซ่ ระบุว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดไฟฟ้าช็อตน้องใบหยก ก็มีผู้มาใช้บริการที่มากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มดังกล่าวมากเช่นกัน แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีความรุนแรงมากขนาดนี้
ส่วน นายนิรัตน์ จุลภักดิ์ หัวหน้าแผนกบริการลูกค้าและการตลาด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จังหวัดตรัง สาขาย่านตาขาว ได้นำเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบระบบแผงควบคุมวงจรการจ่ายไฟฟ้าของปั๊มน้ำมัน รวมทั้งตู้เอทีเอ็มทั้ง 2 ตู้ ที่ตั้งอยู่ติดกัน คือ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารไทยพาณิชย์ โดยระบุว่า ต้องรอให้ทีมช่างมาตรวจสอบอีกครั้ง และหาสาเหตุของปัญหาที่เกิดต่อไป
ด้าน นายวุฒิชัย สุนทรนนท์ นายกเทศมนตรีตำบลย่านตาขาว กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยได้ยินกระแสข่าวเรื่องกระแสไฟฟ้ารั่วที่ตู้เอทีเอ็มดังกล่าวมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ว่าขณะนั้นมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน จนกระทั่งมาเกิดเรื่องกับน้องใบหยก จึงอยากจะให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยมาดูแลด้านความปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งช่วยเยียวยาหนูน้อยรายนี้รายนี้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะธนาคารเจ้าของตู้เอทีเอ็ม
พ.ต.อ.สันทัด วินสน ผกก.สภ.ย่านตาขาว กล่าวว่า สำหรับคดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนหลายฝ่าย เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นเจ้าของตู้เอทีเอ็ม ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าใช้สถานที่ หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นผู้เชื่อมต่อระบบไฟฟ้า รวมไปถึงตัวของหนูน้อยในขณะเกิดเหตุด้วย โดยจะต้องมาสอบสวนว่าทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร และสรุปว่ากรณีนี้มาจากความประมาท หรือเหตุสุดวิสัย ซึ่งขั้นตอนนี้คาดว่าคงจะต้องใช้ระยะเวลามากพอสมควร เพื่อให้ทุกอย่างเกิดความรอบคอบ
พ.ต.อ.สันทัด วินสน กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาแก่ผู้ใด จนกว่าผลการสอบสวนจากทุกฝ่าย เช่น กองวิทยาการพิสูจน์หลักฐาน หรือวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจะออกมา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มีสำคัญที่สุดของคดีนี้ก็คือ การเยียวยาผู้เสียหาย และการหามาตรการป้องกันมิให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาอีก ซึ่งเบื้องต้น ธนาคารไทยพาณิชย์ ก็ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว ขณะที่ทางครอบครัวของน้องใบหยก ก็แสดงความพอใจในเรื่องดังกล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าเกิน และตีกลับ เนื่องจากตู้เอทีเอ็มไม่ได้มีหม้อแปลงพิเศษ แต่ไปพ่วงกับการใช้งานของปั๊มน้ำมัน ดังนั้น เวลาปั๊มเติมน้ำมัน หรือมีการถ่ายเทน้ำมันลง จะต้องใช้กระแสไฟฟ้าสูงมาก แต่เมื่อหยุดดำเนินการแล้วกระแสไฟฟ้าอาจจะตีกลับก่อนแผ่ซ่านไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในบริเวณข้างเคียง โดยเฉพาะตู้เอทีเอ็ม ซึ่งกระแสไฟฟ้าจะวิ่งเข้าสู่มากกว่าปกติ หรือที่เรียกว่าโอเวอร์โหลด แล้วแผ่กระจายไปตามโลหะ ซึ่งถ้าใครถูกเข้าจะช็อตทันที