ตรัง - ตู้เอทีเอ็มแบงก์ไทยพาณิชย์ หน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถนนตรัง-ปะเหลียน เกิดไฟรั่วช็อตเด็กหญิง 2 ขวบ ชาว ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว สาหัส อาการยังวิกฤต ด้านธนาคารรุดช่วยเหลือเต็มที่ ก่อนสั่งปิดตู้ และเร่งตรวจสอบหาข้อเท็จจริง
วันนี้ (13 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลศูนย์ตรังได้รับแจ้งว่า มีเด็กถูกไฟฟ้าช็อตที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถนนตรัง-ปะเหลียน ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ทราบชื่อคือ ด.ญ.ปาริฉัตร หนูพิพิจ หรือน้องใบหยก อายุ 2 ขวบ 2 เดือน โดยขณะนี้ยังคงมีอาการสาหัส และนอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงคนไข้ น.ส.ปนัดดา บำรุง อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173 ม.8 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ผู้เป็นพี่สาว กล่าวว่า
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ตนและน้องใบหยก ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งอยู่ติดกันกับตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ แต่ตนเห็นน้องล้มลง ตอนแรกคิดว่าน้องลื่นล้มเอง แต่พอวิ่งไปยกขึ้นปรากฏว่า ตนโดยไฟฟ้าช็อต แต่โชคดีมีเพื่อนคนหนึ่งขับรถผ่านมา เลยช่วยดึงตนออกมา แล้วรีบนำน้องใบหยก ที่หมดสติส่งโรงพยาบาลย่านตาขาว ซึ่งขณะนั้นอาการน่าเป็นห่วง หัวใจหยุดเต้น หมอได้ใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา และปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต แล้วนำตัวส่ง รพ.ศูนย์ตรัง
นางสุกัลยา หนูพินิจ อายุ 39 ปี มารดาของน้องใบหยก ซึ่งมีอาชีพรับจ้าง กล่าวว่า อาการของลูกสาวตอนนี้นับว่าสาหัส หมอบอกให้ทำใจเหลือแค่ 40% เท่านั้น เพราะก้านสมองส่วนหลังตาย ซึ่งตลอด 7 วันที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง อาการทรงกับทรุด บางครั้งเต้นแผ่ว และหัวใจหยุดเต้น โดยตนมีลูกทั้งหมด 3 คน ทำหน้าที่ดูแลลูกตามลำพัง เนื่องจากแยกกันอยู่กับสามี แต่จากการสอบถามทราบว่า ตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ดังกล่าว มีไฟฟ้ารั่วมาหลายวันแล้ว และก่อนหน้านี้ ก็มีผู้ถูกไฟฟ้าช็อตมาแล้วหลายคน แต่ทางธนาคารยังไม่ได้แก้ไข จนกระทั่งมาเกิดเหตุกับลูกสาวของตน ซึ่งตอนนี้ก็นำกระดาษมาปิด แล้วเขียนข้อความว่า ตู้เสีย อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันเกิดเหตุก็มีผู้บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ และเจ้าหน้าที่มาเยี่ยมทุกวัน รวมทั้งล่าสุด มีการมอบเงินให้แก่ตน 5,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปตนยังไม่ได้คิด เพราะตอนนี้เป็นห่วงแต่อาการของลูกเท่านั้น
ด้าน นายประสาน โลหะจรีกุล ผู้จัดการเขต ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้มีการทำหนังสือชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้มีการเข้าให้การช่วยเหลือแก่ครอบครัวอย่างเต็มที่ทุกกรณี สำหรับตู้เอทีเอ็มดังกล่าว อยู่ระหว่างตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อหาสาเหตุ และข้อเท็จจริงต่อไป โดยได้ระงับการให้บริการทันที และเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย พร้อมทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารทั่วประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม ล่าสุด สำหรับตู้เอทีเอ็มดังกล่าวนั้น พบว่ามีการต่อพ่วงกับปั๊มน้ำมัน และมีกระแสไฟฟ้าโอเวอร์ด้วย