ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ธปท.แถลงภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ไตรมาส 2 ในภาพรวมยังทรงตัว เผยวิกฤตการเมืองคลี่คลายทำเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มฟื้น ราคายางพาราตกต่ำ ส่งผลให้การใช้จ่ายของประชาชนลดน้อยลง ด้านธุรกิจท่องเที่ยวมีปัญหาเหตุรถโดยสารมาเลย์เข้าได้แค่จังหวัดสงขลา ส่วนการท่องเที่ยวฝังทะเลอันดามัน ยังคึกคัก พบอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น
วันนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายพฤธิพงศ์ ศรีมาจันทร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานภาคใต้ เปิดแถลงข่าวในหัวข้อ “ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ ไตรมาส 2 ปี 2557 และแนวโน้ม” ณ สถานสวัสดิสงเคราะห์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ โดยประเด็นที่ใช้ในการแถลงข่าวคือ สรุปภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคใต้ เดือนมิถุนายน ปี 57 สรุปภาวะเศรษฐกิจและเงินภาคใต้ ไตรมาส 2 ปี 57 และผลดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ของธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้
ทั้งนี้ นายพฤธิพงศ์ กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ “เดือนมิถุนายน 57” ที่ผ่านมานั้น หดตัวอย่างต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามการลดลงทั้งภาคเกษตร และอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลต่อรายได้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลักของภาคใต้ ขณะเดียวกัน สถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาก็ส่งผลกระทบถึงการท่องเที่ยว ทั้งด้านความเชื่อมั่น และความไม่สะดวกในการเดินทาง อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายก็ส่งผลให้ต่างประเทศมีความเชื่อมั่นมากขึ้น จึงเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของการใช้จ่ายภาคเอกชน รวมทั้งการอุปโภคบริโภค และการลงทุนในภาคการก่อสร้างก็ดีขึ้น
ต่อมาได้แถลง “ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ไตรมาสที่ 2 ปี 57” อยู่ในสภาวะทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยมีปัจจัยบวกจากการผลิตภาคเกษตร และอุตสาหกรรมขยายตัวดีขึ้น แม้ว่าการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง และผลกระทบจากปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนตอนล่าง รวมทั้งความไม่สะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว
“รายได้ด้านเกษตร” ในภาคใต้ลดลงร้อยละ 11.5 ดัชนีราคาสินค้าเกษตรลดลงเหลือร้อยละ 12.1 ด้านราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะยางพารา ยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากปัจจัยด้านอุปทานทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง และความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศจีน ส่งผลให้รายได้ภาคครัวเรือนของประชาชนลดลง ด้านดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 จากผลผลิตปาล์มที่มากขึ้น ขณะที่ผลผลิตกุ้งขาวยังไม่พื้นตัวจากปัญหาโรคกุ้งตายด่วน
“ภาคการท่องเที่ยว” ในภาคใต้ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองอยู่ ส่งผลให้หลายประเทศยังไม่ยกเลิกการเตือนภัย ส่วนพื้นที่ “ภาคใต้ตอนล่าง” ประสบปัญหาความไม่สะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวเนื่องจากรถโดยสารจากประเทศมาเลเซีย เดินทางเข้ามาได้เพียงแค่จังหวัดสงขลา ส่งผลให้ยอดนักท่องเที่ยวลดลงร้อยละ 5.3 และอัตราเข้าพักอยู่ที่ร้อยละ 54.1 แต่อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยว “ฝั่งอันดามัน” ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวจีน รัสเซีย และออสเตรเลีย
“มูลค่าการส่งออก” ในพื้นที่ภาคใต้ลดลงร้อยละ 12.1 ตามมูลค่าการส่งออกยางพาราที่ลดลงจากผลด้านราคา รวมถึงการส่งออกไม้ยางพาราแปรรูปที่ลดลงเนื่องจากความต้องการที่น้อยลงของตลาดเวียดนาม และอินโดนิเซีย การส่งออกสัตว์น้ำลดลง เนื่องจากการขาดแคลนวัตตุดิบกุ้งขาว แต่อย่างไรก็ตาม การส่งออกอาหารทะเลกระป๋องมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากคำสั่งซื้อของกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลาง
“อัตตาการว่างงาน” ในพื้นที่ภาคใต้ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 3.08 เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน สินเชื่อขยายตัวที่อัตราร้อยละ 6.0 ชะลอจากที่ขยายตัวร้อยละ 8.6 ในไตรมาสก่อน ส่วนเงินฝากขยายตัวร้อยละ 2.7 ชะลอตัวลงจากเงินฝากประจำที่หดตัวมาก
