อธิการ มอ. กุมขมับ! หลังสัตวแพทยสภายื่นเงื่อนไขให้เพิ่มจำนวนอาจารย์ผู้สอนเป็น 36 คน และต้องมีครบ 6 ชั้นปี รวมทั้งให้ รพ.สัตว์ มอ. ต้องเสร็จภายในวันแรกที่รับนักศึกษา จึงจะสามารถเปิดคณะรับ นศ. ได้ ชี้ข้อบังคับทำไม่ได้ในการทำงานจริง วอนสัตวแพทยสภาเข้าใจและยืดหยุ่น ระบุเตรียมเชิญ รองเลขาธิการ กกอ. เดินทางเข้าหาร่วมหารือกับสัตวแพทยสภาเพื่อขอให้ยืดหยุ่น ยกเว้นเจรจาไมได้ก็จะพยายามทำให้ได้ตามเงื่อนไขก่อนเปิดรับ นศ. เทอมแรก ส.ค. 58
รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการโครงการจัดตั้งคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งคณะสัตวแพทยศาสตร์ เข้าไปหารือกับ รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เพื่อขอคำแนะนำและหาทางออกเกี่ยวกับข้อบังคับของทางสัตวแพทยสภา เนื่องจากข้อบังคับบางประการไม่สอดคล้องกับทางปฎิบัติที่มหาวิทยาลัยจะสามารถดำเนินการได้ อาทิ ขอให้เพิ่มจำนวนอาจารย์ผู้สอน ต้องมี 36 คนและสอนครบทั้ง 6 ชั้นปี ซึ่งมหาวิทยาลัยไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ คณะสัตวแพทยฯ มอ. มีแผนจะเปิดรับนักศึกษาปีแรก จำนวน 48 คน มีจำนวนอาจารย์ ประมาณ 19 คน และตามมาตรฐานวิชาชีพของสัตวแพทย์สภาก็ได้กำหนดไว้ว่ามหาวิทยาลัยต้องมีอาจารย์ 1 คน ต่อ นักศึกษา 8 คน ถ้าคำนวณสัดส่วนนักศึกษากับอาจารย์เฉพาะชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยจะไม่ติดข้อบังคับดังกล่าว แต่ข้อเสนอให้เพิ่มจำนวนอาจารย์ของสัตวแพทยสภากลับในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้ เพราะขณะนี้ต้องยอมรับว่าประเทศกำลังขาดแคลนอาจารย์ผู้สอนด้านนี้ อีกทั้งตามนโยบายการจำกัดกรอบอัตรากำลังของภาครัฐ ทำให้มหาวิทยาลัยต้องเพิ่มจำนวนอาจารย์เป็นปีๆ ไป ไม่สามารถขอมาได้ทั้งหมด 6 ปี เป็นต้น
นอกจากนั้น สัตวแพทยสภา ได้กำหนดให้โรงพยาบาลสัตวแพทย์ มอ. ต้องเสร็จภายในวันแรกที่เปิดรับนักศึกษา ซึ่งตามแผนโรงพยาบาลสัตวแพทย์ มอ. มีกำหนดจะสร้างเสร็จเดือน มี.ค. 2558 แต่เมื่อสัตวแพทยสภาระบุเช่นนี้หากเกิดปัญหาในทางปฏิบัติที่มหาวิทยาลัยไม่สามารถควบคุมได้ อาจต้องเลื่อนเปิดโรงพยาบาล มหาวิทยาลัยก็จะไม่สามารถเปิดรับนักศึกษาได้ทั้งที่นักศึกษาจะเปิดภาคเรียนแรกในเดือนสิงหาคม ดังนั้น จึงเสนอว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่สัตวแพทยสภา จะเปลี่ยนให้เป็นเปิดโรงพยาบาลสัตวแพทยภายในปี 2558
“ผมเข้าใจว่าทางสัตวแพทยสภาต้องดำเนินการตรวจสอบ รับรองให้ได้มาตรฐานตามวิชาชีพ แต่ข้อบังคับบางอย่างก็ควรจะมีความยืดหยุ่น ให้สอดคล้องกับการปฏิบัติได้ด้วย อย่าเอาระเบียบมาครอบแล้วไม่ดูว่าทางปฏิบัติจะสามารถเป็นไปได้หรือไม่ แต่ก็อยากให้เข้าใจมหาวิทยาลัยด้วยว่าที่ต้องการเปิดคณะสัตวแพทยฯ ก็ต้องการผลิตสัตวแพทยที่มีคุณภาพ รองรับความต้องการของภูมิภาค โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่างแม้จะมีสัตวแพทย์เจ้าหน้าที่ของรัฐในอัตราส่วนเช่นเดียวกับภาคอื่นๆ แต่ก็ให้บริการทางสัตวแพทย์ได้ไม่ทั่วถึง เพราะมีเกษตรกรรายย่อยมากและมีปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ด้วย อีกทั้งมหาวิทยาลัยเองได้มีแผนในการดำเนินการ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพอยู่แล้วเพียงแต่ข้อบังคับบางอย่างในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้ทันที” รศ.ดร.ชูศักดิ์ กล่าวและว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้ ตนพร้อมด้วยผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งโรงพยาบาลสัตวแพทย มอ. จะเชิญ รศ.นพ.กำจร ไปหารือร่วมกับทางสัตวแพทยสภาขอให้ยืดหยุ่นข้อบังคับต่างๆ เพื่อจะได้เปิดรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2558 ได้ แต่หากสัตวแพทยสภาไม่ยอม มหาวิทยาลัยก็คงต้องปรับให้เป็นไปตามข้อบังคับของสัตวแพทยสภาก่อนเปิดรับนักศึกษา
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
