ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกษตรกรชาวสวนผลไม้อำเภอนาทวี จ.สงขลา วอนรัฐเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องราคาผลไม้ที่มีราคาตกต่ำตั้งแต่ต้นฤดูกาล โดยเฉพาะลองกอง ซึ่งขณะนี้ประสบปัญหาสินค้าล้นตลาด ประกอบกับภัยแล้งที่ส่งผลให้ผลผลิตลดลง ซึ่งสวนทางกับราคาต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น
วันนี้ (2 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งที่มีเกษตรกรชาวสวนผลไม้ปลูกผลไม้มากที่สุดอีกแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา โดยในแต่ละปีจะมีผลไม้พันธุ์ดีระดับเกรดเอ ทั้งทุเรียน ลองกอง มังคุด และเงาะ ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก แต่สำหรับปีนี้ เกษตรกรชาวสวนผลไม้ในอำเภอนาทวี ประสบกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากราคาผลไม้ตกต่ำ โดยเฉพาะราคาลองกอง ที่ตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสวนทางกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และเนื่องจากปีนี้เกษตรกรประสบปัญหาภัยแล้งต้องดูแลผลไม้เป็นอย่างดีทั้งน้ำ และปุ๋ย ส่งผลให้ราคาจำหน่ายไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน
นายวรพจน์ ไชยอ่อนแก้ว หนึ่งในเกษตรกรชาวสวนผลไม้ในตำบลปลักหนู อำเภอนาทวี ซึ่งปลูกผลไม้ในพื้นที่กว่า 20 ไร่ ทั้งทุเรียน มังคุด และลองกอง เปิดเผยว่า จากการที่ได้พูดคุยกับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนผลไม้ในอำเภอนาทวี ปีนี้ลองกอง มีปริมาณล้นตลาด และปัญหาขณะนี้เกษตรกรชาวสวนทุกรายเดือดร้อนจากราคาผลไม้ตกต่ำ แม้เพิ่งเริ่มต้นฤดูกาลราคาก็ตกแล้ว โดยเฉพาะลองกอง ราคาส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 10 กว่าบาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกมาก ขณะที่ราคาลองกองที่เกษตรกรอยู่ได้ต้องกิโลกรัมละ 30 บาท เพราะมีค่าใช้จ่ายทั้งค่าปุ๋ย ค่าแรง ค่าดูแล
นายวรพจน์ กล่าวว่า ในปีนี้ลองกอง ที่สวนได้ผลผลิตกว่า 10 ตัน ซึ่งถือว่าปีน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากฝนทิ้งช่วง แต่ราคากลับตกต่ำ ชาวสวนผลไม้ที่นาทวีบางส่วนต้องทิ้งสวน จึงต้องการเรียกร้องให้ภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับท้องถิ่น เข้ามาช่วยเหลือชาวสวนผลไม้ในอำเภอนาทวี ในเรื่องของการตลาดเพราะเป็นหนึ่งในอาชีพหลัก และเนื่องจากในระยะหลังภาครัฐให้ความสำคัญต่อเรื่องของยางพาราอย่างเดียว ทำให้ชาวสวนผลไม้ไม่มีตลาดรองรับ