xs
xsm
sm
md
lg

“ทีเส็บ” เดินหน้าส่งเสริมตลาดไมซ์ในภูเก็ต เน้นความ LUXURY INCENTIVE

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เดินหน้าแผนส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ในภูเก็ต สอดรับยุทธศาสตร์การพัฒนาท่องเที่ยวกลุ่มอันดามัน ผนวกขายทั้งคลัสเตอร์ เน้นความเป็น LUXURY INCENTIVE เจาะตลาดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลกลุ่มคุณภาพ ชูงานไมซ์มาร์ทครั้งแรกของภูเก็ต ขับเคลื่อนตลาด พร้อมผลักดันสู่การเป็นไมซ์ซิตีแห่งอาเซียน

เมื่อเวลา 14.50 น. วันนี้ (1 ส.ค.) ที่โรงแรมอังสนา ลากูน่า จังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานแถลงข่าวเปิดงานโครงการ 1st Domestic MICE Mart ซึ่งทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมตลาดการขาย และการพัฒนาไมซ์ในประเทศ ซึ่งกิจกรรมที่เป็นหัวใจสำคัญของงานนี้คือ กิจกรรมเจรจาธุรกิจ นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมสัมมนาจากกูรูของไมซ์ และกิจกรรม Familiarization Trip ที่ทางทีเส็บได้นำกลุ่มเป้าหมาย 30 บริษัท จากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีศักยภาพ และสนใจที่จะมาจัดงานประชุมสัมมนาในจังหวัดภูเก็ต มาศึกษาดูความพร้อมทางด้านโรงแรม ที่พัก รวมถึงสถานที่ที่สามารถจัดกิจกรรมประชุมสัมมนา รวมถึงกิจกรรมที่สามารถจัดได้หลังจากการประชุมสัมมนาฯ โดยมีนายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) นางสริตา จินตกานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ตลอดจนวิทยากร ผู้เข้าร่วมงาน สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมในพิธีเปิด

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวถึงทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของจังหวัดภูเก็ต ว่า ในส่วนของ ทีเส็บ จะดำเนินการให้สอดรับต่อแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดอันดามัน พ.ศ.2557-2661 ซึ่งประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาบุคลากร และการส่งเสริมตลาด โดยจะดำเนินการผ่านกลยุทธ์หลักของทีเส็บ 3 ด้านคือ การดึงงาน (Win) การประสัมพันธ์ (Promote) และการพัฒนา (Develop)

สำหรับการส่งเสริมตลาดไมซ์ ในภูเก็ตปีนี้ ภายใต้กลยุทธ์การดึงงาน (Win) และกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ (Promote) ทีเส็บ จะเน้นจุดขายความเป็น Luxury Incentive Is Land เพื่อเจาะตลาดกลุ่มประชุมสัมมนาองค์กร (Meetings) การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) และกลุ่มประชุมนานาชาติ (Conventions) เป็นหลัก โดยผนวกขายกลุ่มอันดามัน คือ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง ตรัง ทั้งคลัสเตอร์ นำเสนอจุดแข็งของแต่ละจังหวัดเพื่อดึงตลาดไมซ์กลุ่มคุณภาพ โดยทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับภูเก็ตให้เป็นไมซ์ซิตี แห่งอาเซียน การดำเนินงานของทีเส็บจะเป็นไปในทิศทางที่สอดประสานกับยุทธศาสตร์การพัฒนาท่องเที่ยว และแบรนด์ตลาดใหม่ของกลุ่มจังหวัดอันดามัน ภายใต้ชื่อ Eastern Andaman Coastal Community (Phuket, PhangNga, Krabi, Trang and Ranong) หรือ EAC ซึ่งเป็นความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจบนระเบียงภาคใต้ของประเทศไทยสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบนเวทีตลาดการท่องเที่ยวและการค้าของโลก

นอกจากนี้ นายนพรัตน์ ยังได้กล่าวถึงกลยุทธ์ด้านการพัฒนาด้วยว่า ในเบื้องต้น ทีเส็บ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พัฒนาฐานข้อมูลไมซ์ของจังหวัด และรวบรวมข้อมูลด้านไมซ์ของจังหวัดเป็นครั้งแรก การจัดอบรม Coach the Coaches ซึ่งเป็นการจัดอบรมเป็นครั้งแรกในระดับภูมิภาคนอกเหนือจากกรุงเทพฯ เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านไมซ์สร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องไมซ์ ให้แก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ต้นน้ำ (เยาวชน) กลางน้ำ (ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้เข้าร่วมในอุตสาหกรรมไมซ์) และปลายน้ำ (ผู้ประกอบการไมซ์) รองรับการแข่งขัน และการขยายตัวของอุตสาหกรรมไมซ์ของไทย เมื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปีหน้า

สำหรับปีนี้ ทีเส็บ ยังได้ดำเนินการต่อยอดพัฒนาตลาดด้วยแนวคิดในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ในรูปแบบของการเปิดเวทีจับคู่เจรจาธุรกิจ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไมซ์ท้องถิ่นเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง ผ่านการจัดโครงการ 1st Domestic MICE Mart ซึ่งริเริ่มขึ้นเป็นปีแรกในจังหวัดภูเก็ต โดยมีกลุ่มผู้ขาย เช่น โรงแรม สถานที่รองรับการจัดประชุม บริษัทรับจัดงานเชิงธุรกิจ บริษัทนำเที่ยว จำนวน 50 ราย และกลุ่มผู้ซื้อจากองค์กรภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนสมาคมวิชาชีพต่างๆ จำนวน 60 ราย เข้าร่วมงาน พร้อมกันนี้ ยังจัดให้มีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับไมซ์ซิตีหลัก ทั้ง 5 เมือง คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา ขอนแก่น ภูเก็ต และการสัมมนาให้ความรู้ทางด้านไมซ์แก่ผู้ที่สนใจ และประชาชนทั่วไป โดยคาดหวังว่าการจัดงานครั้งนี้ จะสร้างรายได้เข้าสู่ภูเก็ต คิดเป็นมูลค่า 37,500,000 บาท จากจำนวนผู้เดินทางไมซ์ ประมาณ 6,000 คน

โดยปี 2556 ที่ผ่านมา ภูเก็ต ได้ให้การต้อนรับนักเดินทางไมซ์ จำนวน 1.2 ล้านคน สร้างรายได้ 1,033.20 ล้านบาท และมีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานไมซ์ที่สำคัญ ได้แก่ การประชุม Sun Hope จากประเทศจีน มีผู้ร่วมงาน 1,400 คน และการประชุม PIMEX (The Phuket Internation Boat Show) มีผู้ร่วมงาน 4,000 คน สำหรับปี 2557 นี้ ภูเก็ตยังได้เป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ๆ หลายงาน เช่น Castrol Rio at Asia FIFA 2014 (BP Castrol) มีผู้ร่วมงานจากทั่วโลก 1,050 คน และการประชุม The 29th International Technical Conference on Curcuit/Systems Computers and Communications (ITC-CSCC) 2014 มีผู้ร่วมงาน 600 คน ฯลฯ โดยภาพรวมอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศ (Domestic MICE) ทีเส็บ ประมาณการว่า ในปี 2557 จะมีการเติบโตของตลาดไมซ์ในประเทศโดยรวม คิดเป็นจำนวนนักเดินทาง 4,502,406 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 และคิดเป็นมูลค่าตลาดไมซ์ในประเทศ 13,291 ล้านบาท เพิ่มจำนวนรายได้ขึ้นร้อยละ 4

“ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีความพร้อมรองรับอุตสาหกรรมไมซ์อย่างมาก การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลในอนาคต เช่น การสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ การปรับปรุงท่าเรือโดยสารขนาดใหญ่ ท่าเรือน้ำลึกอ่าวมะขาม การปรับปรุงโครงสร้างการบริหารสนามบินภูเก็ตให้เป็น “สมาร์ทแอร์พอร์ต” รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคที่จำเป็นสำหรับรองรับตลาดการท่องเที่ยว และการจัดงานธุรกิจไมซ์ในกลุ่มจังหวัดอันดามัน จะช่วยส่งเสริมการขายงานไมซ์ในภูเก็ต และจังหวัดในกลุ่มอันดามันเป็นแพกเกจเดียวกันด้วยรูปแบบของ cluster destination และยกระดับภูเก็ตขึ้นสู่การเป็นไมซ์ซิตี ของอาเซียนได้อย่างเต็มภาคภูมิ” นายนพรัตน์ กล่าวในที่สุด
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น