xs
xsm
sm
md
lg

“ทีเส็บ” เผยผลสำเร็จสนับสนุนผู้ประกอบการไมซ์ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“นพรัตน์ เมธาวีกุลชัย” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” (แฟ้มภาพ)
“ทีเส็บ” เดินหน้าผลักดันประเทศไทยไปสู่แนวทางปฏิบัติในการบริหารจัดงานธุรกิจไมซ์อย่างยั่งยืนด้วยมาตรฐาน ISO20121 ซึ่งประยุกต์ใช้ครั้งแรกในงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ลอนดอน 2012 ล่าสุดผู้ประกอบการไมซ์ไทย 3 รายผ่านการรับรองแล้ว ชี้แนวโน้มการทำธุรกิจในอนาคตให้ยั่งยืนต้องสร้างความต่างนำเสนอสินค้าและบริการที่ใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นจุดขายดึงงานไมซ์ระดับโลก

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า ทีเส็บได้ริเริ่มดำเนินการส่งเสริมและผลักดันมาตรฐานกรีนมีตติ้งส์ให้อุตสาหกรรมไมซ์ไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2550 จนได้รับการยอมรับในการบริหารจัดการด้านกรีนมีตติ้งส์ให้เป็น 1 ใน 2 เมืองของภูมิภาคเอเชียร่วมกับกรุงโซล ประเทศเกาหลี จากผลสำรวจ Leadership in Sustainability : The Why and The How ในงาน UFI Annual Conference 2010 ในปี 2553

“ต่อมาในปี 2555 ทีเส็บได้มีการดำเนินงานปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยจากกรีนมีตติ้งส์ไปสู่แนวปฏิบัติแห่งความยั่งยืนภายใต้แคมเปญ Sustainability Thailand พร้อมกับแนะนำมาตรฐานใหม่ ISO20121 : Event Sustainability Management System ซึ่งเป็นมาตรฐานการจัดการและบริหารงานที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจการจัดงานอีเวนต์โดยเฉพาะ และมีการประยุกต์ใช้ครั้งแรกในงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ลอนดอน 2012”

ที่ผ่านมาการดำเนินงานยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ไทยไปสู่ความยั่งยืนมีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไมซ์ของไทยที่เข้าร่วมโครงการกับทีเส็บ สามารถพัฒนาคุณภาพและบริการจนได้รับการรับรองมาตรฐานการจัดงานอีเวนต์อย่างยั่งยืน หรือ ISO20121 เป็นครั้งแรกในเมืองไทยและเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียเพื่อรักษาสถานะความเป็นผู้นำทางด้านกรีนมีตติ้งส์ของเอเชีย รวมจำนวน 3 ราย ได้แก่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บริษัท คิงส์เมนส์ ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด และ เมอเวนพิค รีสอร์ทแอนด์สปา กะรนบีช ภูเก็ต (Moevenpick Resort & Spa Karon Beach Phuket) ซึ่งเป็นไปตามเป้าประสงค์ของทีเส็บที่นำมาตรฐานนี้เข้ามาเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไมซ์ไทยและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเห็นความสำคัญ มีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานตามวิถีแห่งความยั่งยืน ครอบคลุมหลักการปฏิบัติทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างจุดขายใหม่ในการดึงงานไมซ์ระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทย

ด้าน นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า มาตรฐาน ISO20121 มีความสำคัญมาก เพราะธุรกิจไมซ์เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบในวงกว้างทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากร เราจึงต้องหันมามองว่าจะแก้ หรือลดปัญหาได้อย่างไร ในขณะที่มาตรฐาน ISO20121 เข้ามาตอบโจทย์นี้ได้อย่างตรงจุด

“การนำมาตรฐาน ISO20121 มาปรับใช้กับธุรกิจนั้น ศูนย์ฯ สิริกิติ์ได้วางนโยบายกระตุ้นตั้งแต่ต้นทางให้องค์กรและพนักงานมีความตื่นตัว สร้างจิตสำนึก และให้ความรู้ในเรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบบริการที่สะท้อนความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมให้แก่ลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาทางศูนย์ฯ สิริกิติ์ได้ทำโครงการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลการดำเนินการตามนโยบาย 3 ด้าน ครอบคลุมทั้งมิติทางสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ”

นายศักดิ์ชัยกล่าวต่อไปว่า ในอนาคตศูนย์ฯ สิริกิติ์จะปรับแพกเกจตลอดจนรูปแบบการขายพื้นที่เพื่อให้บริการต่างๆ ของศูนย์ฯ สามารถชักจูงลูกค้าให้เข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด โดยจะมีการมอบประกาศนียบัตร หรือการประกาศในสื่อต่างๆ ของศูนย์ฯ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันจะปรับกลยุทธ์การขายที่เน้นการประชุมแบบไม่ใช้กระดาษ ให้บริการ Wi-Fi ฟรี และใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดการใช้ทรัพยากร รวมถึงเชิญชวนให้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าและจักรยาน โดยมีจุดจอดจักรยานที่ร่วมพัฒนากับทีเส็บไว้รองรับ

“การเข้าร่วมโครงการกับทีเส็บครั้งนี้ นอกจากจะได้รับการสนับสนุนในเรื่องงบประมาณแล้ว ยังช่วยในการหาข้อมูลต่างๆ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์โครงการให้กับผู้ที่อยู่ในธุรกิจไมซ์ และผู้ใช้บริการของธุรกิจไมซ์ทั้งในและต่างประเทศได้เข้าใจและเห็นความสำคัญของการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย” นายศักดิ์ชัยกล่าวสรุป

นายชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจรับออกแบบจัดทำโครงสร้างสำหรับงานอีเวนต์และนิทรรศการแสดงสินค้า เปิดเผยว่า การได้รับรองมาตรฐานนี้ไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของบริษัทเท่านั้น แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อผู้จัดงานในประเทศไทย ทั้งยังสะท้อนความเป็นมืออาชีพของไทยในเวทีโลกอย่างเด่นชัดอีกด้วย

“เราตระหนักดีว่าธุรกิจการจัดงานและงานแสดงสินค้าสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ เช่น เพิ่มอัตราการจ้างงาน ผู้จัดแสดงสินค้ามีรายได้เพิ่มจากการจำหน่ายสินค้าและบริการ ขณะเดียวกันเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดงานทุกครั้งอาจจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน เรามีนโยบายในการทำงานพัฒนาการบริหารจัดงานอีเวนต์อย่างยั่งยืนก็เพื่อจะแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของบริษัทที่จะพัฒนาต่อไปจะเป็นไปในทิศทางนี้ เพื่อลดของเสียจากกระบวนการผลิต ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความพอใจให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากับการลงทุนในบริการของเรา” นายชยวัฒน์กล่าว

ด้าน นายฮานส์รูดี้ ฟรุกติเกอร์ ผู้จัดการทั่วไป เมอเวนพิค รีสอร์ทแอนด์สปา กะรนบีช ภูเก็ต (Moevenpick Resort & Spa Karon Beach Phuket) กล่าวว่า โรงแรมมีเป้าหมายจะเป็นสถานที่สำหรับการจัดงานด้านไมซ์ที่นิยมของภูเก็ต ซึ่งนอกจากมาตรฐาน ISO20121 แล้ว ยังได้เข้าร่วมปรับปรุงคุณภาพตามมาตรฐาน Green Globe ซึ่งเป็นมาตรฐานทางด้านสิ่งแวดล้อมในระดับสากล การเข้าสู่มาตรฐานเหล่านี้เป็นความพยายามของโรงแรมในการสนับสนุนคุณค่าทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงาน พร้อมกับรักษามรดกทางวัฒนธรรมไว้

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความร่ำรวยทางวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา สถาปัตยกรรม รวมถึงศิลปะทางด้านอาหาร โรงแรมฯ จะนำเอามาตรฐาน ISO20121 มาปรับใช้กับการจัดงานต่างๆ ของโรงแรม เช่น การจัดงานเลี้ยงแต่งงานแบบสากลและงานที่นำเสนอแนวคิดรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการของโรงแรม และเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับลูกค้า พร้อมกับเน้นย้ำถึงความใส่ใจของโรงแรมต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของการทำธุรกิจ ตั้งแต่การคัดเลือกซัปพลายเออร์ที่ดำเนินงานอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คู่ขนานกันไปกับการบริหารจัดการทรัพยากรและพลังงานของโรงแรมให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังได้มีการอบรมสร้างจิตสำนึกให้พนักงานได้ตระหนักและเห็นความสำคัญ สร้างโอกาสและให้คืนกลับสังคมชุมชนท้องถิ่นผ่านโครงการซีเอสอาร์ต่างๆ ของโรงแรม

“เราหวังว่าการนำมาตรฐาน ISO20121 มาปรับใช้ในธุรกิจจะช่วยลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและจำกัดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากผลิตผลพลอยได้ต่างๆ การเข้าร่วมโครงการนี้กับทีเส็บทำให้เรามีโอกาสปรับปรุงการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปในทิศทางที่ยั่งยืน นอกจากนั้นยังได้แสดงให้โลกเห็นว่า อุตสาหกรรมไมซ์ของไทยสามารถดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จในระดับมาตรฐานสากล และเราก็พร้อมจะให้บริการด้วยความเอื้อเฟื้อแบบไทยๆ ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก” นายฮานส์รูดี้กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น