ขอนแก่น - “ทีเส็บ” ร่วมจังหวัดขอนแก่นจัดงาน “Domestic MICE MART” กระตุ้นตลาดประชุมและแสดงสินค้า ยกระดับภาคบริการและพัฒนาธุรกิจไมซ์แห่งอีสานและกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง ขณะที่จังหวัดประกาศเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์พัฒนา 4 ปี พร้อมผลักดันขอนแก่นก้าวสู่เมืองแห่งไมซ์เต็มตัว คาดหวังตัวเลขรายได้นักเดินทางกลุ่มดีไมซ์ ปี 57 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 มูลค่าร่วม 13,231 ล้านบาท
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยว่า ในสถานการณ์สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อันเนื่องมาจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ทีเส็บตระหนักถึงศักยภาพของตลาดไมซ์ในประเทศว่าเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและชุมชนท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี
จ.ขอนแก่นเป็น 1 ใน 5 ไมซ์ซิตี้ที่ทีเส็บมองเห็นถึงศักยภาพความพร้อมทั้งด้านคมนาคมขนส่ง บริการด้านไมซ์ และความเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของภูมิภาค จึงมีการร่วมมือส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์กับทางจังหวัดเมื่อปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กำหนดแผนแม่บทในการพัฒนาภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์หลัก คือ กลยุทธ์การดึงงาน (Win) เพื่อรักษาตลาดเดิมและรักษาตลาดเป้าหมาย กลยุทธ์การส่งเสริม (Promote) ผลักดันให้จังหวัดของแก่นเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของไมซ์ในภูมิภาค และกลยุทธ์การพัฒนา(Develop) ให้ของแก่นไมซ์ซิตี้มีความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมไมซ์ด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์
สำหรับปีนี้ ทีเส็บมุ่งเน้นการตลาดและการขายเชิงรุกด้วยการเปิดโครงการ 1st Domestic MICE Mart หรืองานไมซ์มาร์ท ครั้งที่ 1 ณ จังหวัดของแก่น ในวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเปิดเวทีให้ผู้ประกอบการไมซ์ได้นำเสนอสินค้าและบริการในประเทศโดยเฉพาะ โดยระดมผู้ซื้อจากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน สมาคมวิชาชีพ องค์กรเอกชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก
“ขอนแก่นถือเป็นไมซ์ซิตี้ที่มีความพร้อมในด้านความร่วมมือของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในเมือง ไม่ว่าจะเป็นจังหวัด เทศบาล มหาวิทยาลัยขอนแก่น หอการค้า สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ททท.ขอนแก่น และสมาคมท่องเที่ยวขอนแก่น พร้อมใจจะร่วมสร้างเมืองขอนแก่นให้เป็นไมซ์ซิตี้ที่เข้มแข็ง พร้อมเชื่อมโยงกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง”
หลังจากลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับจังหวัด ทีเส็บได้ร่วมกับจังหวัดขอนแก่นพัฒนายกระดับงานเทศกาลไหมประจำปีให้มีองค์ประกอบทางด้านการค้าขายระหว่างประเทศ ในอนุภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งสอดคล้องไปกับการวาง Position ของเมือง ที่จะเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเชื่อมโยงเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor : EWEC) เน้นการใช้เส้นทางทางบกให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างงานแสดงสินค้า และการลงทุน
ดังนั้น การกระตุ้นตลาดไมซ์จะช่วยยกระดับภาคบริการและพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานนั้นๆ ไปในตัว
อย่างไรก็ตาม นายนพรัตน์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทีเส็บอยู่ระหว่างการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาขอนแก่นไมซ์ซิตี้ การสร้างแบรนด์และจุดขายด้านไมซ์ให้กับจังหวัดขอนแก่น โดยส่วนนี้ทีเส็บทำงานร่วมกับจังหวัดและมหาวิทยาลัยขอนแก่น ตามเป้าหมายจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนนี้ นอกจากนั้นเรายังได้ส่งเสริมให้มีการพัฒนา MICE Intelligence หรือฐานข้อมูลไมซ์ของจังหวัดขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมและพัฒนาตลาดรองรับการแข่งขันในอนาคต
ด้านนายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของจังหวัดว่า จะดำเนินการสอดประสานไปกับแผนยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัด 4 ปี (พ.ศ. 2557-2560) ภายใต้วิสัยทัศน์ ขอนแก่นเมืองน่าอยู่ มุ่งสู่มหานครแห่งอาเซียน ประกอบด้วย 3 พันธกิจหลัก คือ 1. มุ่งเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง พลเมืองมีความสุข 2. พัฒนาให้เป็นเมืองน่าอยู่ เป็นต้นแบบการพัฒนาบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ 3. ส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางของอนุภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) ทั้งด้านเศรษฐกิจ คมนาคม และทรัพยากรมนุษย์
ตามแผนพัฒนาของจังหวัดฯ ได้มีการกำหนดทิศทางการพัฒนาเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในระยะเร่งด่วนใน 3 มิติ ภาคชนบท ภาคชุมชนเมือง และการก้าวสู่สากล โดยอุตสาหกรรมไมซ์จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคชุมชนเมือง ซึ่งเน้นในเรื่องของการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกทางด้านการค้าและการลงทุน รวมถึงการลดผลกระทบจากการเติบโตของเมือง
จังหวัดขอนแก่นได้มีการลงนามความร่วมมือกับทีเส็บในการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ของจังหวัดขอนแก่น หรือไมซ์ซิตี้ ลำดับล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา ปัจจุบันทางจังหวัดได้มีการตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ 6 คณะ ดูแลด้านการประชุมนิทรรศการและการแสดงสินค้า, การพัฒนาเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน, การรักษาความปลอดภัย, การส่งเสริมการท่องเที่ยว, การประชาสัมพันธ์, ด้านข้อมูลให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านไมซ์ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับทีเส็บ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรมในจังหวัดขอนแก่น ในการนำเสนอจังหวัดให้เป็นเจ้าภาพหลักสำหรับการจัดงานไมซ์ระดับโลก
ในอนาคตจังหวัดขอนแก่นมีแนวคิดจะเชื่อมโยงเมืองท่องเที่ยวหลัก สิงคโปร์ หนานหนิง ขอนแก่น และนำแบบอย่างการท่องเที่ยวของสิงคโปร์มาปรับใช้ในการพัฒนาการท่องเที่ยวขอนแก่น พร้อมกับเตรียมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดทำสวนกัลปพฤกษ์ บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำค่ายเปรม ติณสูลานนท์
ปัจจุบันมีการปลูกไปแล้วทั้งสิ้น 19,999 ต้น พร้อมกับปรับปรุงสถานที่สำคัญๆ ของจังหวัดให้มีความสวยงาม โดยนำต้นไม้ประจำจังหวัด คือ ต้นราชพฤกษ์ หรือต้นคูน มาปลูกประดับทั่วเมือง นำเสนอภาพลักษณ์และภูมิทัศน์ที่สวยงาม สร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงไมซ์ใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์
สถิติไมซ์ของจังหวัดขอนแก่นปี 2556 มีผู้เดินทางไมซ์เข้ามาทั้งสิ้น 688,000 คน สร้างรายได้กว่า 600 ล้านบาท โดยจากจัดกิจกรรมโดเมสติกไมซ์มาร์ทครั้งนี้ทีเส็บคาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานประมาณ 200 คน แบ่งเป็นกลุ่มซื้อองค์กรเอกชน หน่วยงานราชการ ท้องถิ่น และจังหวัดใกล้เคียง จำนวน 100 คน กลุ่มผู้ขายในกลุ่มธุรกิจโรงแรม ที่พัก ศูนย์ประชุม ผู้ประกอบการไมซ์ท้องถิ่นในภาคอีสาน จำนวน 100 คน โดยคาดว่าจะมีจำนวนการเจรจาธุรกิจทั้งสิ้น 300 นัดหมาย และจำนวนงานที่จะได้จากการเจรจาธุรกิจจำนวน 100 คน คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายที่เกิดขึ้นในงานจำนวน 16,680,000 ล้านบาท
ทั้งนีี้จะส่งผลให้ตัวเลขรายได้นักเดินทางกลุ่มดีไมซ์ (Domestic Mice) ของปี 57 เป็นไปตามการคาดหมาย คือ จำนวนนักเดินทาง 4,502,406 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 และคิดเป็นมูลค่าตลาดดีไมซ์ 13,231 ล้านบาท เพิ่มจำนวนรายได้ขึ้นร้อยละ 4 พร้อมกันนี้ ทีเส็บยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาดีไมซ์ พร้อมยกระดับตำแหน่งทางการตลาดของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นสู่การเป็นตลาดไมซ์คุณภาพของภูมิภาคเอเชียต่อไป