สตูล - พบป้าสีวัย 52 ปี ชาวจังหวัดสตูล ป่วยเป็นโรงผิวแห้งเปื่อยที่ฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง มีอาการปวดแสบปวดร้อน หยิบจับสิ่งของไม่สะดวก ประกอบกับมีฐานะยากจน มีรายได้เฉลี่ยวันละ 200 บาท จึงต้องรักษาตามมีตามเกิด เผยทุกวันนี้ต้องจำใจไปกรีดยางกับสามี ทั้งที่มือเจ็บทั้งสองข้าง วอนผู้เกี่ยวข้องหาหมอเฉพาะทางช่วยเหลือ
วันนี้ (14 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเฉลิม ขุนเจริญ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 3 ต.นิคมพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล หรือป้าสี ที่คนในหมู่บ้านรู้จักกัน ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคผิวแห้งเปื่อย ที่เกิดขึ้นบนฝ่ามือทั้งสองข้างจนแทบจะทะลุ ผดผื่นเริ่มลามตามหลังมือ แขนทั้งสองข้าง ด้วยความยากจนไม่มีเงินไปรักษาทำให้รักษากันตามมีตามเกิด เคยไปรักษาโรงพยาบาลมะนัง ในอำเภอ หมอบอกเพียงว่าเป็นผิวแห้ง ให้รักษาด้วยการทาโลชั่น แม้จะจัดยากิน และยาทามาให้ แต่ก็ไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น
ครั้นจะไปรักษายังหมอเฉพาะทางผิวหนังก็ไม่มีเงินในการเดินทางไปรักษา เพราะครอบครัวมีรายได้เฉลี่ยวันละประมาณ 200 บาท แต่ก็ไม่แน่นอน แต่ต้องเลี้ยงปากท้อง 3 คน สามีก็มีโรคประจำตัวไทรอยด์ หากรายได้หลักจะขึ้นอยู่ที่ตัวป้าสีเอง
ทุกวันนี้การใช้ชีวิตไม่ปกติสุข เพราะอาการปวดแสบ ปวดร้อน คันแผน และหนังที่ตายลอกอักเสบโบ๋ลึกลงไป โดยป้าสี กลัวว่าแผลจะทะลุฝ่ามือ ทุกวันนี้จะอาบน้ำ หยิบจับอะไรก็ไม่สะดวก ไปมาหาสู่เพื่อนบ้านก็กลัวจะรังเกียจว่าเป็นโรคร้ายนำเชื้อไปติดเค้ารู้สึกทรมาน และอยากวอนคนที่มีจิตเมตตามาช่วยรักษาให้โรคนี้หายขาด ก่อนที่อาการจะลามไปทั้งตัว ก่อนหน้านี้ ป้าสี เล่าว่า เคยเป็นผื่นขึ้นที่หลังเท้าแต่ก็หายไปนานแล้ว และมาครั้งนี้รู้สึกทรมานมาก เพราะอาการเป็นร่วมเดือนแต่แผลที่ฝ่ามือมันเหมือนจะทะลุ ทุกวันนี้ป้าก็ต้องจำใจไปรับจ้างกรีดยางกับสามี ทั้งที่มือเจ็บทั้งสองข้าง
ด้าน นางสกลพร แก้วคงที่ อสม.ต.นิคมพัฒนา อ.มะนัง ได้แนะนำให้ไปหาหมอแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล เห็นอาการป้าสีแกทุกวันเพราะแกจะมาเล่าให้ฟัง ก็ได้แค่สงสารไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไร เพราะฐานะทางบ้านเราก็จนเหมือนกัน ก็เห็นความทุกข์ทรมานของอาการ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ปกติสุข เพราะรู้มาว่าหมอเฉพาะทางผิวหนังมีค่ารักษาที่แพงมาก ก็ได้แต่วอนผู้เกี่ยวข้องหาหมอเฉพาะทางมาช่วยรักษาอาการทรมานของโรคนี้ให้ ป้าสี แกด้วย
