xs
xsm
sm
md
lg

โจนส์ แลง ลาซาลล์ คาดไตรมาส 2 ตลาดโรงแรมในกรุงเทพฯ ปรับตัวดีขึ้น หลังยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แอนดรูว์ แลงดอน
“โจนส์ แลง ลาซาลล์” เผยปัญหาการเมืองฉุดต่างชาติมากรุงเทพฯ ลดลง 15% กระทบตลาดโรงแแรมกรุงเทพฯ โรงแรม 5 ดาวหนักสุด อัตราเข้าพักเหลือแค่ 45.2% โรงแรม 4 ดาวเหลือ 54% ส่วน 3 ดาวเหลือ 55.3% หวังไตรมาส 2 ปรับตัวดีขึ้นหลังยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน

นายแอนดรูว์ แลงดอน รองประธานบริหาร หน่วยธุรกิจบริการด้านโรงแรม บริษัทโจนล์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ JLL กล่าวว่า เหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เริ่มขยายตัวขึ้นอีกครั้งนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ตามมาด้วยการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ในเดือนมกราคมของปีนี้ มีผลทำให้จำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ลดลง ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโรงแรม

ผลกระทบดังกล่าวจะเห็นได้จากอัตราการใช้บริการห้องพักที่ลดต่ำลง ซึ่งมีผลทำให้รายได้จากการให้บริการห้องพักของโรงแรมลดลงไปด้วย แม้อัตราค่าบริการห้องพักของโรงแรมทุกระดับในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 1.2%-5.4%

จากข้อมูลของกรมการท่องเที่ยว ระบุว่า ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ในปี 2556 มีจำนวนทั้งสิ้น 17.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20.1% จากปี 2555 แต่สำหรับ 3 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนลดลง 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การลดลงของจำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ดังกล่าว ส่งผลกระทบทันทีต่อภาคธุรกิจโรงแรมของกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ กลุ่มโรงแรม 5 ดาว ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีอัตราการเข้าใช้บริการห้องพักลดลงจาก 75.2% ในไตรมาสแรกของปี 2556 เหลือ 45.2% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ทั้งนี้ แม้อัตราค่าบริการห้องพักในไตรมาสแรกของปีนี้ จะสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 5.4% แต่อัตราการเข้าใช้บริการห้องพักที่ลดลง ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักที่มีไว้บริการทั้งหมดปรับลดลง 36.6%

ในช่วงเดียวกัน กลุ่มโรงแรม 4 ดาว มีอัตราค่าบริการห้องพักสูงขึ้น 1.2% แต่อัตราการเข้าใช้บริการห้องพักที่ปรับลดลงจาก 80.8% เหลือ 54% ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักที่มีไว้บริการทั้งหมดปรับลดลง 32.4%

ส่วนกลุ่มโรงแรม 3 ดาว อัตราค่าบริการห้องพักสูงขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2556 ในขณะที่อัตราการเข้าใช้ห้องพักลดต่ำลงจาก 81.3% เหลือ 55.3% ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักที่มีไว้บริการทั้งหมดปรับลดลง 30.9%

นายแลงดอน กล่าวว่า แม้จะยังไม่มีรายงานข้อมูลตัวเลขอย่างเป็นทางการหลังจากมีการยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา แต่หลายฝ่ายมีความเห็นสอดคล้องกันว่า ภาคธุรกิจโรงแรมของกรุงเทพฯ น่าจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นไตรมาส 2 ของปีนี้ เนื่องจากการยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จะส่งผลดีต่อจำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ซึ่งจะช่วยให้ความต้องการใช้บริการห้องพักโรงแรมปรับตัวดีขึ้น

“นอกจากนี้ โรงแรมที่จะสร้างเสร็จใหม่ในปีนี้มีจำนวนค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ หน้า ดังนั้น จึงจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดเพิ่มขึ้นมากนักในแง่ของอัตราการเข้าใช้บริการห้องพัก” นายแลงดอนกล่าว

ปัจจุบัน กรุงเทพฯ มีโรงแรมคิดเป็นจำนวนห้องพักรวมทั้งสิ้นประมาณ 100,000 ห้อง โดยในปีนี้ มีโรงแรมที่มีกำหนดจะสร้างเสร็จเพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น 2,200 ห้อง ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ชะลอลง เมื่อเทียบกับช่วง 4 ปีก่อนหน้าที่มีโรงแรมสร้างเสร็จเพิ่มเฉลี่ย 3,700 ห้องต่อปี

“แม้ไตรมาส 2 จะมีแนวโน้มที่เป็นบวกกว่าไตรมาสแรกของปี แต่ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาทิศทางของตลาดโรงแรมในกรุงเทพฯ สำหรับช่วงที่เหลือของทั้งปี 2557 นี้ เนื่องจากต้องรอดูสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูงต่อไป อย่างไรก็ดี ประสบการณ์จากวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า ภาคธุรกิจโรงแรมของกรุงเทพฯ สามารถฟื้นตัวได้ค่อนข้างเร็ว จากอานิสงส์ของการที่กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก” นายแลงดอน กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น