เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซียออกโรงในวันพุธ (14) โดยระบุ มาเลเซียกำลังก้าวเดินอยู่บน “เส้นทางที่ถูกต้อง” ของการบรรลุเป้าประสงค์ ในการเป็นประเทศที่มีรายได้สูง (High-Income Nation Status) ชี้ ประชาชนแดนเสือเหลือง จะมีความกินดีอยู่ดีติดระดับโลกอย่างแน่นอนภายในปี 2020
นาจิบ ราซัค วัย 60 ปี ซึ่งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์ของมาเลเซียตั้งแต่เมื่อปี 2009 กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในวันพุธ (14) โดยยืนยันว่า มาเลเซียเดินมาถูกทางแล้วบนเส้นทางแห่งการพัฒนาที่มีเป้าหมายจะผลักดันให้แดนเสือเหลืองกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศรายได้สูงของโลกภายในปี ค.ศ. 2020 และหนึ่งใน “ปัจจัยแห่งความสำเร็จ” ที่จะส่งผลให้ชาวมาเลเซียมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านร่วมกลุ่ม “อาเซียน” ก็คือ ความสำเร็จของมาเลเซียในการปฏิรูปเศรษฐกิจของชาติให้มีความหลากหลาย และลดสัดส่วนการพึ่งพาเงินรายได้จาก “น้ำมัน”
นาจิบ ยืนยันว่า ขณะนี้ มาเลเซียได้ก้าวพ้นช่วงเวลาหลายทศวรรษแห่งความเสี่ยงด้านงบประมาณไปแล้ว และในเวลานี้ตัวเลขการบริโภคภายในประเทศของชาวมาเลเซียได้เติบโตขึ้นจนมีสัดส่วนเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีของประเทศ และถือเป็นครั้งแรกที่ การบริโภคภายในประเทศของชาวมาเลเซีย มีสัดส่วนสูงกว่ารายได้จากอุตสาหกรรมพลังงาน ที่เคยเป็นเส้นเลือดหลักในการหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจมาโดยตลอด
ท่าทีล่าสุดของ นาจิบ ราซัค มีขึ้นหลังจากมีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจประจำปี 2013 เมื่อวันจันทร์ (12) ที่ผ่านมาซึ่งระบุว่า ในปีที่แล้วรายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวมาเลเซียได้เพิ่มขึ้นเป็น 10,060 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 326,000 บาท) ต่อปี เพิ่มขึ้นจากรายได้ต่อหัว 9,970 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 323,160 บาท) ต่อปีของเมื่อปี 2012
ทั้งนี้ ธนาคารโลกกำหนดกฎเกณฑ์ด้านรายได้ไว้ว่า ประเทศใดก็ตามที่ประชากรของตนมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวตั้งแต่ 12,616 ดอลลาร์ (ราว 409,080 บาท) ต่อปี จะถือเป็นประเทศในกลุ่มที่มีรายได้สูง ขณะที่รัฐบาลมาเลเซียตั้งเป้าว่าเมื่อถึงปี 2020 รายได้เฉลี่ยของชาวมาเลเซียจะต้องเพิ่มขึ้นเป็นคนละ 15,000 ดอลลาร์ (ราว 486,360 บาท) ต่อปี