ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เผยสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศสหรัฐอเมริกาขณะนี้ที่ทำให้ ‘คิมเบอร์รี่-คล๊าค’ ต้องปิดโรงงานผลิตถุงมือยางใน อ.หาดใหญ่ หลังเปิดดำเนินการมานานกว่า 16 ปี แต่ยังคงเหลือโรงงานอีกแห่งใน อ.สะเดา ขณะที่ทางจังหวัดเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือพนักงานที่จะถูกเลิกจ้างกว่า 3 พันคนแล้ว
สำหรับความคืบหน้ากรณีโรงงานผลิตถุงมือยาง บริษัท เซฟสกิน คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 119 หมู่ 8 ถนนกาญจนวนิช ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แจ้งต่อพนักงานว่าจะปิดกิจการอย่างถาวร ตามข่าวที่ ‘ASTVผู้จัดการภาคใต้’ นำเสนอเมื่อวานที่ผ่านมา
ล่าสุด แหล่งข่าวพนักงานภายในบริษัทยืนยันว่า ทางโรงงานจะปิดกิจการจริงในช่วงปลายปีที่จะถึงนี้ สำหรับพนักงานจำนวนกว่า 3 พันคน ขณะนี้มีบางส่วนที่กำลังมองหาที่ทำงานใหม่ โดยอาจจะย้ายไปทำงานที่โรงงานผลิตถุงมือของบริษัท เซฟสกิน เมดิคอล แอนด์ ไซเอนทิฟิค (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 200 ถนนกาญจนวนิช ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นโรงงานในเครือเดียวกัน และมีพนักงานบางส่วนที่รอลุ้นให้บริษัทอื่นมารับช่วงต่อจากเซฟสกิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่กำลังจะปิดกิจการ
รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้ทางจังหวัดสงขลา โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่รับดูแลเรื่องนี้จะส่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล และให้คำปรึกษาแก่พนักงานทั้ง 3 พันกว่าคนของโรงงานผลิตถุงมือยางเซฟสกิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้ได้รับการปฏิบัติตามสิทธิที่กำหนดไว้ในกฎหมายแรงงาน
โดยระบุว่า การเลิกกิจการของโรงงานผลิตถุงมือยาง บริษัท เซฟสกิน คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือคิมเบอร์รี่-คล๊าค เกิดจากหลายเหตุผล แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โรงงานแห่งนี้ต้องเลิกกิจการก็คือ ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของโรงงานถูกส่งออกไปจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกา ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์