“ก้องเกียรติ” เผยนักลงทุนต่างชาติจับตาการเมืองไทยใกล้ชิด กังวลทางประเทศไทยยังตีบตัน และยังไม่รู้จุดสิ้นสุดจะอยู่ตรงไหน อาจจุดชนวนเศรษฐกิจถดถอย พร้อมส่งสัญญาณหั่นเป้ากำไร บจ. ในปีนี้อาจเติบโตต่ำกว่า 12%
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นช่วงนี้ยังมีความผันผวนตามสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยนักลงทุนต่างประเทศติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหลังจากศาลรัธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีส่วนหนึ่งพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ เพราะมองว่าทิศทางประเทศไทยยังตีบตัน คงต้องกลับมาดูสถานการณ์แบบวันต่อวัน หรือสัปดาห์ต่อสัปดาห์ เพื่อประเมินว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ และยังไม่รู้จุดสิ้นสุดของการเมืองไทยว่าจะอยู่ตรงไหน
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ เศรษฐกิจไทยก็อาจจะถดถอยลง ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยก็อาจจะลดลง ผู้ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยก็คงจะต้องคิดแล้วคิดอีก ซึ่งจากการที่ได้พูดคุยกับผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) หลายรายก็บอกว่า ได้รับผลกระทบแล้ว แม้แต่บริษัทส่งออกที่แต่แรกอาจจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น เพราะคำสั่งซื้อก็ชะลอลง
โดยในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นไปได้จากการเก็งผลประกอบการไตรมาส 1/57 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) แต่หลังจากหมดปัจจัยดังกล่าวแล้วตลาดหุ้นก็อาจจะซึมลง ซึ่งเป็นภาวะเดียวกันทั้งตลาดหุ้นไทย และต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเดือน พ.ค.นี้
ส่วนผลประกอบการของ บจ.ในประเทศช่วงไตรมาสแรกยังออกมาดี เพราะเป็นผลพวงจากอดีต เช่น คำสั่งซื้อที่ค้างมาจากปลายปีที่แล้ว ยกเว้นกลุ่มค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองทันที แต่มองแนวโน้มไตรมาส 2-3/57 ผลประกอบการอาจจะชะลอลง เพราะการเมืองช่วงนี้ทำให้มีการชะลอคำสั่งซื้อ
โดยทาง ASP ประเมินกำไร บจ.ในปีนี้จะเติบโต 12% แต่หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/57 ไปแล้วก็อาจจะมีการทบทวนอีกรอบ เหมือนกับปีก่อนที่ต้นปีมองว่ากำไร บจ.จะเติบโต 25% แต่สุดท้ายก็ปรับลดลงมาเหลือ 8% ครั้งนี้ก็คงต้องพิจารณาก่อน