ASTVผู้จัดการรายวัน-กรุงเทพโพลล์ เผยนักเศรษฐศาสตร์ ชี้ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ที่จุดต่ำสุด และจะเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว และ 73.9% ย้ำทุกภาคส่วนต้องหาข้อตกลงก่อนการเลือกตั้ง ส่วนการปฏิรูป ควรเป็นรัฐบาลที่มาจากคนกลาง
กรุงเทพโพลล์ ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 32 แห่ง จำนวน 69 คน เรื่อง“ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ และความคิดเห็นประเด็นเลือกตั้ง”โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 23–30 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า
นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ คิดเป็นร้อยละ 73.9 ต้องการให้ทุกภาคส่วนหาข้อสรุป ข้อตกลงก่อนการเลือกตั้ง รองลงมา ร้อยละ 11.6 เห็นว่า ควรจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด เมื่อถามว่า“การปฏิรูปประเทศควรดำเนินการโดยใคร หรือหน่วยงานใด”ร้อยละ 36.2 เห็นว่าควรเป็นรัฐบาลที่มาจากคนกลาง ขณะที่ร้อยละ 33.3 เห็นว่า ควรดำเนินการโดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ส่วนค่าดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน พบว่า ค่าดัชนียังคงปรับตัวลดลงจากการสำรวจครั้งก่อนหน้า ที่อยู่ในระดับ 17.85 เป็น 12.75 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับจากมีการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ ( หรือต่ำสุดในรอบ 16 ไตรมาส) และการที่ค่าดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมาก สะท้อนให้เห็นถึงสถานะทางเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
ด้านดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจใน 3 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีอยู่ที่ 47.35 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 สะท้อนให้เห็นแนวโน้มเศรษฐกิจจะแย่ลงอีกในอีก 3 เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม การที่ค่าดัชนีปรับเพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนหน้าอาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ให้เห็นการฟื้นตัวในเร็วๆ นี้ สอดคล้องกับดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้า ที่ค่าดัชนีปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 63.32 และอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า เศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้า จะปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน
เมื่อพิจารณาปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้า ที่จะคอยประคองเศรษฐกิจให้มีการฟื้นตัว คือ การส่งออกสินค้า การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชน ขณะที่ปัจจัยด้านการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐจะยังคงเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจต่อไป
ด้านความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ ในประเด็นวัฏจักรเศรษฐกิจ ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงใดของวัฏจักร พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 81.2 เห็นว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงถดถอย รองลงมาร้อยละ 7.2 เห็นว่าอยู่ในช่วงตกต่ำ (Trough)มีเพียงร้อยละ1.4 ที่เห็นว่า อยู่ในช่วงขยายตัว และร้อยละ 1.4 เช่นกัน ที่เห็นว่าอยู่ในช่วงรุ่งเรือง (Peak)เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา แล้วแบ่งวัฏจักรออกเป็น 2 ฟาก คือ ฟากเศรษฐกิจขยายตัวจนถึงจุดสูงสุด และ ฟากเศรษฐกิจถดถอยจนถึงจุดต่ำสุด จะพบว่าวัฏจักรมีการเคลื่อนเข้าสู่ภาวะถดถอยมากขึ้น จนอาจจะกล่าวได้ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ที่จุดต่ำสุดแล้ว
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า
1) เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ในสถานะที่อ่อนแอเป็นอย่างมากในรอบ 16 ไตรมาส ที่ทำการสำรวจ
2) เศรษฐกิจไทยเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวในเร็วๆ นี้ และจะเห็นสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจนในระยะอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยภาคการส่งออก และการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
3) วัฏจักรเศรษฐกิจมีการเคลื่อนเข้าสู่ภาวะถดถอยมากขึ้น จนอาจจะกล่าวได้ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ที่จุดต่ำสุดแล้ว
กรุงเทพโพลล์ ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 32 แห่ง จำนวน 69 คน เรื่อง“ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ และความคิดเห็นประเด็นเลือกตั้ง”โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 23–30 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า
นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ คิดเป็นร้อยละ 73.9 ต้องการให้ทุกภาคส่วนหาข้อสรุป ข้อตกลงก่อนการเลือกตั้ง รองลงมา ร้อยละ 11.6 เห็นว่า ควรจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด เมื่อถามว่า“การปฏิรูปประเทศควรดำเนินการโดยใคร หรือหน่วยงานใด”ร้อยละ 36.2 เห็นว่าควรเป็นรัฐบาลที่มาจากคนกลาง ขณะที่ร้อยละ 33.3 เห็นว่า ควรดำเนินการโดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ส่วนค่าดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน พบว่า ค่าดัชนียังคงปรับตัวลดลงจากการสำรวจครั้งก่อนหน้า ที่อยู่ในระดับ 17.85 เป็น 12.75 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับจากมีการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ ( หรือต่ำสุดในรอบ 16 ไตรมาส) และการที่ค่าดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมาก สะท้อนให้เห็นถึงสถานะทางเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
ด้านดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจใน 3 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีอยู่ที่ 47.35 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 สะท้อนให้เห็นแนวโน้มเศรษฐกิจจะแย่ลงอีกในอีก 3 เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม การที่ค่าดัชนีปรับเพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนหน้าอาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ให้เห็นการฟื้นตัวในเร็วๆ นี้ สอดคล้องกับดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้า ที่ค่าดัชนีปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 63.32 และอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า เศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้า จะปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน
เมื่อพิจารณาปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้า ที่จะคอยประคองเศรษฐกิจให้มีการฟื้นตัว คือ การส่งออกสินค้า การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชน ขณะที่ปัจจัยด้านการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐจะยังคงเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจต่อไป
ด้านความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ ในประเด็นวัฏจักรเศรษฐกิจ ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงใดของวัฏจักร พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 81.2 เห็นว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงถดถอย รองลงมาร้อยละ 7.2 เห็นว่าอยู่ในช่วงตกต่ำ (Trough)มีเพียงร้อยละ1.4 ที่เห็นว่า อยู่ในช่วงขยายตัว และร้อยละ 1.4 เช่นกัน ที่เห็นว่าอยู่ในช่วงรุ่งเรือง (Peak)เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา แล้วแบ่งวัฏจักรออกเป็น 2 ฟาก คือ ฟากเศรษฐกิจขยายตัวจนถึงจุดสูงสุด และ ฟากเศรษฐกิจถดถอยจนถึงจุดต่ำสุด จะพบว่าวัฏจักรมีการเคลื่อนเข้าสู่ภาวะถดถอยมากขึ้น จนอาจจะกล่าวได้ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ที่จุดต่ำสุดแล้ว
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า
1) เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ในสถานะที่อ่อนแอเป็นอย่างมากในรอบ 16 ไตรมาส ที่ทำการสำรวจ
2) เศรษฐกิจไทยเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวในเร็วๆ นี้ และจะเห็นสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจนในระยะอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยภาคการส่งออก และการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
3) วัฏจักรเศรษฐกิจมีการเคลื่อนเข้าสู่ภาวะถดถอยมากขึ้น จนอาจจะกล่าวได้ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ที่จุดต่ำสุดแล้ว