ชุมพร - พ่อค้าแม่ค้าผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อย ในจังหวัดชุมพร ปิดแผงงดขาย หลังถูกคุมราคาไม่เกิน 80 บาท
หลังจากที่ทาง คสช. มีนโยบายให้กองสลากกินแบ่งรัฐบาล ใช้มาตรการคุมราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ ห้ามเกินราคาคู่ละ 80 บาท และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อผู้ที่ขายเกินราคา โดยเริ่มตั้งแต่งวดประจำเดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
สำหรับจังหวัดชุมพร จากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าวพบว่า ผู้จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ค้ารายย่อยที่มีแผงขายอยู่ตามหน้าร้านค้า และมีทั้งเดินขาย ขับรถจักรยานยนต์ไปขายตามสถานที่ต่างๆ ปรากฏว่า ตลอดทั้งวันของวันนี้ไม่มีพ่อค้าแม่ค้านำสลากกินแบ่งรัฐบาลออกมาจำหน่ายให้แก่ผู้ซื้อแต่อย่างใด โดยผู้ค้ารายย่อยหลายรายต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่สามารถขายในราคาคู่ละ 80 บาท ตามที่กองสลากกำหนดได้ เนื่องจากผู้ค้ารายย่อยไม่มีโควตา เพราะต้องไปซื้อต่อมาจากเอเยนต์อีกต่อหนึ่ง บางคนก็ไปซื้อจากเอเยนต์ที่รับซื้อกันมาหลายๆทอด จึงทำให้ราคาแตกต่างกันไปอยู่ที่คู่ละ 90-95 บาท หากขาย 80 บาท ก็จะทำให้ขาดทุน จึงต้องพากันหยุดขายไปก่อนในระยะนี้ แต่ถ้าขายไม่ได้จริงๆ ก็คงจะไม่มีงานทำเพราะยึดอาชีพนี้กันมานานหลายปีแล้ว
นายรังสรรค์ พิลาวรรณ อายุ 47 ปี ผู้ค้าสลากรายย่อยในอำเภอละแม จ.ชุมพร เปิดเผยว่า ตนประกอบอาชีพเปิดร้านขายของชำ และนำสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำหน่ายด้วย โดยราคาต้นทุนที่ซื้อมาในแต่ละงวดจะไม่เท่ากันจะอยู่ที่ราคา 90-95 บาท ช่วงแรกๆ ก็ขายปลีกอยู่ที่ 110 บาท และต่อมาก็ลดลงเหลือ 100 บาท หากราคาที่ยี่ปั๊วที่ส่งมาให้ขายยังเท่าเดิมก็คงไม่สามารถนำมาจำหน่ายได้เพราะว่าขาดทุน แต่หากกองสลากมีนโยบายที่จะขายสลากในราคา 80 บาทจริง ก็ต้องทำให้ราคาส่งถึงมือผู้ค้ารายย่อยถูกลงจึงจะขายในราคาดังกล่าวได้
