แผงหวยเมืองน่านบ่นอุบ “หวยหาย-คสช.คุมราคา” ทำขายฝืด

น่าน - แม่ค้าลอตเตอรี่บ่นอุบ หวย 1 ก.ค.ขายฝืด เหตุมีหวยหาย แถม คสช.สั่งคุมราคาซ้ำ

วันนี้ (1 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้สำรวจแผงจำหน่ายลอตเตอรี่ตัวเมืองน่านในหวยออก พบว่า แม้ คสช.จะมีนโยบายแก้ปัญหาการขายลอตเตอรี่เกินราคาหน้าสลากที่ระบุไว้ฉบับละ 80 บาท แต่พ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่ในเขตอำเภอเมืองน่านยังจำหน่ายลอตเตอรี่งวดนี้เกินราคาอยู่

โดยลอตเตอรี่ หรือหวยชุดจะจำหน่ายใบละ 110-120 บาท หากเป็นลอตเตอรี่ที่ไม่ใช่หวยชุดก็จะจำหน่ายในราคาใบละ 100 บาท พร้อมกับระบุเหตุผลว่า รับมาจากยี่ปั๊วใบละ 91 บาทแล้ว หากขายใบละ 80 บาทก็ขาดทุน ขายไม่ได้ เพราะต้นทุนที่รับมามีราคาสูงอยู่แล้ว หากจะขายในราคาที่ คสช.กำหนด ผู้ค้ารายย่อยก็ไม่สามารถอยู่ได้

นางวิไล บัวน้อย อายุ 43 ปี ยึดอาชีพขายลอตเตอรี่มา 17 ปี กล่าวว่า ถ้าจะให้ขายลอตเตอรี่ในราคาไม่เกิน 80 บาทนั้น ผู้ขายรายย่อยอย่างพวกตนทำไม่ได้แน่นอน เพราะรับมา 91 บาท เกินราคาขายที่ คสช.กำหนดแล้ว

“เรื่องนี้คนขายลอตเตอรี่อย่างพวกเราหมดทางไปจริงๆ ไม่มีหนทางที่จะไปทำมาหากินอย่างอื่นเลย เพราะมีหนี้สิน ลูกก็อยู่ในวัยเรียน ราคาสินค้าอื่นสูงไปหมดแล้ว หากจะให้ย้อนกลับไปที่ราคา 80 บาท คงอยู่กันลำบากมาก อยากให้ คสช.เห็นใจ”

ขณะที่นางพร ใจฟั่น อายุ 46 ปี แม่ค้าขายหวยจาก จาก อ.นาน้อย จ.น่าน เปิดเผยว่า งวดนี้ขายลอตเตอรี่แทบไม่ได้เพราะกระแสข่าวอายัดลอตเตอรี่ที่หายไปที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเกือบ 5 หมื่นฉบับ ทำให้ผู้ซื้อเกรงว่าซื้อไปแล้วหากถูกจะขึ้นรางวัลไม่ได้ ทำให้ยอดขายลดลงมาก จากที่เคยขายได้วันละ 60-70 ใบ เหลือแค่วันละ 10-20 ใบเท่านั้น

ส่วนเรื่องกำหนดให้ขายในราคา 80 บาท คงไม่มีใครสามารถทำได้ เพราะต้นทุนที่รับมาจากยี่ปั๊วอยู่ที่ใบละ 91 บาทแล้ว ถ้าต้องการให้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาใบละ 80 บาท รัฐบาล และกองสลาก ควรเริ่มต้นปรับราคาที่กองสลากส่งให้ยี่ปั๊วรายใหญ่ลงมาก่อน

“แต่หากบังคับให้ขายราคา 80 บาทจริงๆ ก็คงต้องเลิกอาชีพนี้ กลับถิ่นฐานบ้านเกิดไปรับจ้างทำงานอื่นแทน”