ประจวบคีรีขันธ์ - ปลัดจังหวัดฯ และคลังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมเร่งทำความเข้าใจผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลขายคู่ละ 80 บาท ด้านแม่ค้าเผยเดือดร้อน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (1 ก.ค.) ที่ห้องประชุมเกาะหลักชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายปราโมทย์ สำเภาเงิน ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นางสมศรี เพิงเผา คลังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เชิญผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กว่า 200 รายเข้าร่วมประชุมด่วน เพื่อชี้แจงข้อมูล และขอความร่วมมือกับผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อย ขายสลากในราคาฉบับละ 80 บาท ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีมติให้กรมบัญชีกลาง กำชับคลังจังหวัดทุกแห่งให้กวดขันดูแลตัวแทนจำหน่ายสลากที่รับจากสำนักงานคลังจังหวัดนำไปจำหน่าย ให้จำหน่ายตามราคาควบคุมเพื่อความเป็นธรรมต่อผู้บริโภค
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เสนอให้ผู้ค้าสลากที่มียอดจำหน่ายเกิน 15 เล่มต่องวด มาจำหน่ายสลากที่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัด เพราะเป็นสถานที่มีผู้คนมาติดต่อราชการจำนวนมาก โดยผู้ค้าสลากจาก อ.ปราณบุรี ได้เสนอว่า ควรเป็นผู้ค้าสลากใน อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จึงจะดีที่สุดที่แบ่งสลากมาขายหน้าศาลากลาง เพราะกำไรที่เหลือเพียงใบละ 5.60 บาท จะไม่คุมต่อต้นทุนการเดินทางมาจำหน่ายสลากของผู้ค้าในอำเภออื่น
นายปราโมทย์ สำเภาเงิน ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ปัจจุบันตัวเลขผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ได้รับโควตาในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีจำนวนทั้งสิ้น 277 ราย จำนวนสลากตามโควตา 1,150 เล่ม ทั้งนี้ จำเป็นต้องชี้แจงทำความเข้าใจต่อผู้ค้าทุกรายว่า จะต้องปฏิบัติตามนโยบายของ คสช. เพราะหากมีหลักฐานว่าผู้ค้ารายใดจำหน่ายเกินราคา 80 บาท อาจส่งผลกระทบต่อการถูกยกเลิกสัญญาจากกองสลากต่ออายุปีต่อไปได้ และอาจถูกจำคุกโดยศาลทหารเพราะเป็นประกาศในช่วงกฎอัยการศึกได้
นางรัชนี ผ่องใส อายุ 44 ปี หนึ่งในผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลในเขต อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขายสลากมานานกว่า 8 ปีแล้ว โดยตนมีโควตาอยู่ 5 เล่ม ได้กำไรเดือนละประมาณ 10,000 บาท แต่พอรัฐบาลกำหนดให้ขายสลากในราคา 80 บาท จะเหลือกำไรเพียงใบละ 5 บาท ทำให้มีรายได้เพียง 5,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งรายได้หายไปจำนวนมาก เชื่อว่าจะไม่พอต่อค่าครองชีพในปัจจุบันที่มีราคาสูง
แต่หากยืนยันว่า ต้องให้ขาย 80 บาท คงต้องลดต้นทุนให้ต่ำกว่า 70 บาท ผู้ค้าจึงจะอยู่ได้ หรือหากต้นทุนเท่าเดิมก็น่าจะขยับราคาขายอยู่ที่ 90 บาท จึงจะอยู่ได้ทั้งผู้ค้า และผู้ซื้อ แต่เมื่อเป็นนโยบายลงมาผู้ค้าสลากทุกคนก็พร้อมปฏิบัติตาม แต่เชื่อว่าจะได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน