xs
xsm
sm
md
lg

มทภ.4 แถลงผลจับอาวุธ 14 จว.ใต้ เกือบ 1 พันกระบอก เผยเดินหน้ากวาดล้างต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ทภ.4 แถลงผลการจับกุมอาวุธปืนใน 14 จังหวัดภาคใต้ รวมเกือบ 1,000 กระบอก ขณะที่ มทภ.4 ระบุยังคงเดินหน้ากวาดล้างอาวุธสงครามอย่างต่อเนื่อง และจะประเมินการประกาศเคอร์ฟิว ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แบบวันต่อวัน โดยเฉพาะช่วงเดือนรอมฎอน

วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่สโมสรรื่นฤดี ค่ายวชิราวุธ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยนายตำรวจระดับผู้บัญชาการภาค ทั้งภาค 8 ภาค 9 และ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ นายทหารระดับสูง ผู้ว่าราชการจังหวัด และตัวแทนใน 14 จังหวัดภาคใต้ โดยวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันสุดท้ายที่ให้โอกาสการส่งคืนอาวุธสงคราม และวัตถุระเบิด โดยแต่ละกองบังการตำรวจภูธรจังหวัด ได้นำเอาอาวุธปืนของกลางในการกวาดล้างอาวุธปืนสงคราม และวัตถุระเบิดภายใต้คำสั่ง คสช. ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้รวมเกือบ 1 พันกระบอก ซึ่งแบ่งออกเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียนแต่พกพาโดยผิดกฎหมาย อาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน อาวุธปืนสงครามชนิดต่างๆ เช่น เอ็ม 16 อาก้า คาร์บิน เป็นต้นรวมไปถึงวัตถุระเบิดทั้งระเบิดแบบขว้างสังหาร ลูกปืน ค.60 ลูกระเบิดเอ็ม 79 และเครื่องกระสุนชนิดต่างๆ เกือบ 5 พันนัด

พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า สำหรับอาวุธสงคราม อาวุธปืน เครื่องกระสุน และยุทธภัณฑ์ที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดได้ มาทั้งจากกลุ่มกำลังติดอาวุธ ผู้มีอิทธิพล ผู้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ผิดกฎหมาย และการตรวจพบจากการลักลอบนำมาทิ้งไว้ในหลายพื้นที่ ซึ่งสามารถยืนยันได้ว่า กลุ่มกองกำลังติดอาวุธ กองกำลังกลุ่มต่างๆ มีอยู่จริง และเตรียมการที่จะก่อเหตุรุนแรง และกระทำผิดที่กฎหมาย ทั้งต่อประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอาวุธที่ตรวจยึดได้นั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ทหารที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยึดไปอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้กลับคืนมาเพียงบางส่วน

ขณะเดียวกัน แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวถึงอำนาจในการประกาศกฎอัยการศึก หรือเคอร์ฟิว ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงเดือนรอมฎอน ว่า จะมีการประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน ว่าจะใช้การประกาศกฎอัยการศึกหรือไม่ ส่วนมาตรการในพื้นที่ขณะนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ การบูรณาการกำลังร่วมทุกฝ่ายดูแลความปลอดภัยชาวไทยพุทธ และมุสลิมในพื้นที่ และอีกส่วนคือ ผู้นำศาสนาที่ต้องการเห็นเดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่มีความสงบสุข ซึ่งมีการรวมตัวกันที่มัสยิดกลางปัตตานี เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีแนวทางประกาศออกมา 3 เรื่องคือ 1.ต้องการความสงบเรียบร้อย 2.ต้องการให้พี่น้องมุสลิมลดละเลิกอบายมุข และ 3.ให้ทุกคนปฏิบัติตนตามหลักศาสนา แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวในที่สุด


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น