ยะลา - แม่ทัพภาค 4 แถลงผลการจับกุม 3 พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ส่งขายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พบขนโดยรถ 2 คันมาจากจังหวัดสงขลา หนึ่งในผู้ต้องหาเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เบื้องต้นสืบทราบว่า เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกลุ่มผู้กระทำความผิดในเรือนจำ วอน ปชช. และผู้นำท้องถิ่นร่วมมือกับเจ้าหน้าที่แก้ปัญหา
วันนี้ (24 มิ.ย ) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี รอง ผบช.ศชต. พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตตานี พ.ท.กรกฎ เจริญฤทธิ์ ผบ.ฉก.ปัตตานี 24 ได้ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี รอง ผบช.ศชต.กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.57 เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารได้ทำการสืบสวนจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติด จำนวน 3 ราย คือ นายมะรูดิง หรือวี เจ๊ะโหว อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม.8 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี นายอับดุลเลาะ หรือปะจู สาเตะ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.1 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา และนายอดุลย์ หรือดุล เพ็งเลาะ อายุ 35 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง ม.8 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา ได้ที่ถนนชนบทหน้าวัดนิคมควนเปล ม.2 ต.ท่าเรือ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ในขณะที่ทั้ง 3 กำลังเดินทางด้วยรถยนต์ จำนวน 2 คัน ไปรับยาบ้าจาก จ.สงขลา เพื่อเตรียมนำส่งให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้เส้นทางถนนสาย 43 ในการลักลอบลำเลียง
โดยตรวจค้นภายในรถยนต์ พบยาบ้าจำนวน 1 หมื่นเม็ด ซุกซ่อนอยู่ในแผงคอนโซลรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ขจ 679 เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้ พร้อมกับโทรศัพท์มือถืออีก 3 เครื่อง รวมทั้งรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กท 7530 สงขลา ซึ่งเป็นรถที่นายอดุลย์ เพ็งเลาะ ขับขี่เพื่อใช้นำทาง และดูแลความปลอดภัยในเส้นทางระหว่างการลักลอบลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนี้ เป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งมีความเชื่อมโยงในการกระทำผิดกับนักโทษในเรือนจำ กลุ่มของ “แบซัน” ในส่วนของเครือข่ายที่เหลืออยู่ ตลอดจนทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องต่อการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจะได้ดำเนินการสืบสวน และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า สำหรับการติดตามปราบปรามยาเสพติดนี้เป็นไปตามนโยบายของคณะ คสช. ซึ่งได้เน้นย้ำในเรื่องของการปราบปรามยาเสพติดให้มีความเข้มข้น เนื่องจากเป็นภัยแทรกซ้อนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับในพื้นที่ภาคใต้เองนั้น การแพร่ระบาด และการค้าขายยาเสพติดค่อนข้างมีความรุนแรง ประกอบกับ ประชาชนในพื้นที่เองก็ต้องการให้ภาครัฐเร่งแก้ปัญหา ซึ่งสอดคล้องนโยบายของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมกันเร่งติดตามจับกุมผู้ค้า ผู้เสพดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม การปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ให้หมดไปนั้นก็ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน ผู้นำศาสนา และทุกฝ่ายในพื้นที่เช่นกัน
วันนี้ (24 มิ.ย ) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี รอง ผบช.ศชต. พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตตานี พ.ท.กรกฎ เจริญฤทธิ์ ผบ.ฉก.ปัตตานี 24 ได้ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี รอง ผบช.ศชต.กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.57 เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารได้ทำการสืบสวนจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติด จำนวน 3 ราย คือ นายมะรูดิง หรือวี เจ๊ะโหว อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม.8 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี นายอับดุลเลาะ หรือปะจู สาเตะ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.1 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา และนายอดุลย์ หรือดุล เพ็งเลาะ อายุ 35 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง ม.8 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา ได้ที่ถนนชนบทหน้าวัดนิคมควนเปล ม.2 ต.ท่าเรือ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ในขณะที่ทั้ง 3 กำลังเดินทางด้วยรถยนต์ จำนวน 2 คัน ไปรับยาบ้าจาก จ.สงขลา เพื่อเตรียมนำส่งให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้เส้นทางถนนสาย 43 ในการลักลอบลำเลียง
โดยตรวจค้นภายในรถยนต์ พบยาบ้าจำนวน 1 หมื่นเม็ด ซุกซ่อนอยู่ในแผงคอนโซลรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ขจ 679 เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้ พร้อมกับโทรศัพท์มือถืออีก 3 เครื่อง รวมทั้งรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กท 7530 สงขลา ซึ่งเป็นรถที่นายอดุลย์ เพ็งเลาะ ขับขี่เพื่อใช้นำทาง และดูแลความปลอดภัยในเส้นทางระหว่างการลักลอบลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนี้ เป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งมีความเชื่อมโยงในการกระทำผิดกับนักโทษในเรือนจำ กลุ่มของ “แบซัน” ในส่วนของเครือข่ายที่เหลืออยู่ ตลอดจนทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องต่อการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจะได้ดำเนินการสืบสวน และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า สำหรับการติดตามปราบปรามยาเสพติดนี้เป็นไปตามนโยบายของคณะ คสช. ซึ่งได้เน้นย้ำในเรื่องของการปราบปรามยาเสพติดให้มีความเข้มข้น เนื่องจากเป็นภัยแทรกซ้อนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับในพื้นที่ภาคใต้เองนั้น การแพร่ระบาด และการค้าขายยาเสพติดค่อนข้างมีความรุนแรง ประกอบกับ ประชาชนในพื้นที่เองก็ต้องการให้ภาครัฐเร่งแก้ปัญหา ซึ่งสอดคล้องนโยบายของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมกันเร่งติดตามจับกุมผู้ค้า ผู้เสพดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม การปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ให้หมดไปนั้นก็ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน ผู้นำศาสนา และทุกฝ่ายในพื้นที่เช่นกัน