ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผลสำรวจหาดใหญ่โพล เรื่อง “10 ปีการเข้าถึง เข้าใจ และพัฒนาในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้” พบว่า ประชาชนพอใจการแก้ปัญหาไฟใต้อยู่ในระดับน้อยสุด และส่วนใหญ่เห็นว่า สาเหตุที่การแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ประสบความสำเร็จ เกิดจากการพัฒนาด้านเศรษฐกิจไม่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และประชาชนเกิดความสูญเสียเกี่ยวกับภาวะความเครียด สุขภาพจิตมากที่สุด
หาดใหญ่โพล โดยสำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ สำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจครั้งนี้ เป็นประชาชนในจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จำนวน 402 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่ 24-31 เมษายน 2557 ผลการสำรวจสรุปได้ดังนี้
กลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 62.15 มีอายุระหว่าง 31-40 ปี ร้อยละ 36.48 รองลงมา อายุ 21-30 ปี ร้อยละ 30.36 และอายุ 41-50 ปี ร้อยละ 15.82 ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอาชีพพนักงานบริษัท/รับจ้าง ร้อยละ 21.08 รองลงมา คือ ประกอบกิจการส่วนตัว/ค้าขาย ร้อยละ 19.54 นักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 14.91 รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 14.40 และข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 12.08 ตามลำดับ โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 84.24 ศาสนาพุทธ ร้อยละ 14.67 และศาสนาคริสต์ ร้อยละ 1.09
ผศ.ดร.กอแก้ว จันทร์กิ่งทอง รักษาการผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เปิดเผยผลการสำรวจหาดใหญ่โพล พบว่า ประชาชนพอใจภาพรวมของการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในระดับน้อย โดยมีคะแนนเฉลี่ย 3.78 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 57.64 เห็นว่าสาเหตุที่การแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ประสบความสำเร็จ เกิดจากการพัฒนาด้านเศรษฐกิจไม่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน มากที่สุด รองลงมาได้แก่ รัฐบาลไม่สามารถส่งเสริมคุณภาพชีวิต การข่าวของหน่วยงานภาครัฐไม่มีประสิทธิภาพ และประชาชนไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม คิดเป็นร้อยละ 53.13 46.37 และ 40.35 ตามลำดับ
จากการสำรวจพบว่า แนวทางในการพัฒนาของรัฐบาลที่ผ่านมาไม่ค่อยประสบความสำเร็จ และเป็นที่ถูกใจของประชาชน โดยที่แนวทางการส่งเสริมการประกอบกิจกรรมทางศาสนาอิสลาม มีค่าความแตกต่างระหว่างพอใจ และไม่พึงพอใจน้อยที่สุด รองลงมา แนวทางการสนับสนุนโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามในการนำวิชาสันติศึกษามาทำการสอนทุกระดับ และแนวทางการส่งเสริมการเรียนการสอนในระบบ 2 หรือ 3 ภาษา ตามลำดับ
นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าแนวโน้มของปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า จะมีปัญหาจะเหมือนเดิม ร้อยละ 66.58 รองลงมา แนวโน้มปัญหารุนแรงขึ้น ร้อยละ 30.91 และแนวโน้มปัญหาคลี่คลาย ร้อยละ 2.51
จากปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า ประชาชนเกิดความสูญเสียเกี่ยวกับภาวะความเครียด/สุขภาพจิต มากที่สุด ร้อยละ 33.00 รองลงมา คือ ความสูญเสียโอกาสเกี่ยวกับความมั่นคงทางอาชีพ และรายได้ ร้อยละ 23.67 ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ร้อยละ 15.33 และสูญเสียโอกาสระบบบริการสาธารณสุข ร้อยละ 10.33
หาดใหญ่โพล โดยสำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ สำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจครั้งนี้ เป็นประชาชนในจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จำนวน 402 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่ 24-31 เมษายน 2557 ผลการสำรวจสรุปได้ดังนี้
กลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 62.15 มีอายุระหว่าง 31-40 ปี ร้อยละ 36.48 รองลงมา อายุ 21-30 ปี ร้อยละ 30.36 และอายุ 41-50 ปี ร้อยละ 15.82 ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอาชีพพนักงานบริษัท/รับจ้าง ร้อยละ 21.08 รองลงมา คือ ประกอบกิจการส่วนตัว/ค้าขาย ร้อยละ 19.54 นักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 14.91 รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 14.40 และข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 12.08 ตามลำดับ โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 84.24 ศาสนาพุทธ ร้อยละ 14.67 และศาสนาคริสต์ ร้อยละ 1.09
ผศ.ดร.กอแก้ว จันทร์กิ่งทอง รักษาการผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เปิดเผยผลการสำรวจหาดใหญ่โพล พบว่า ประชาชนพอใจภาพรวมของการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในระดับน้อย โดยมีคะแนนเฉลี่ย 3.78 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 57.64 เห็นว่าสาเหตุที่การแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ประสบความสำเร็จ เกิดจากการพัฒนาด้านเศรษฐกิจไม่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน มากที่สุด รองลงมาได้แก่ รัฐบาลไม่สามารถส่งเสริมคุณภาพชีวิต การข่าวของหน่วยงานภาครัฐไม่มีประสิทธิภาพ และประชาชนไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม คิดเป็นร้อยละ 53.13 46.37 และ 40.35 ตามลำดับ
จากการสำรวจพบว่า แนวทางในการพัฒนาของรัฐบาลที่ผ่านมาไม่ค่อยประสบความสำเร็จ และเป็นที่ถูกใจของประชาชน โดยที่แนวทางการส่งเสริมการประกอบกิจกรรมทางศาสนาอิสลาม มีค่าความแตกต่างระหว่างพอใจ และไม่พึงพอใจน้อยที่สุด รองลงมา แนวทางการสนับสนุนโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามในการนำวิชาสันติศึกษามาทำการสอนทุกระดับ และแนวทางการส่งเสริมการเรียนการสอนในระบบ 2 หรือ 3 ภาษา ตามลำดับ
นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าแนวโน้มของปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า จะมีปัญหาจะเหมือนเดิม ร้อยละ 66.58 รองลงมา แนวโน้มปัญหารุนแรงขึ้น ร้อยละ 30.91 และแนวโน้มปัญหาคลี่คลาย ร้อยละ 2.51
จากปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า ประชาชนเกิดความสูญเสียเกี่ยวกับภาวะความเครียด/สุขภาพจิต มากที่สุด ร้อยละ 33.00 รองลงมา คือ ความสูญเสียโอกาสเกี่ยวกับความมั่นคงทางอาชีพ และรายได้ ร้อยละ 23.67 ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ร้อยละ 15.33 และสูญเสียโอกาสระบบบริการสาธารณสุข ร้อยละ 10.33