นราธิวาส - ฝ่ายความมั่นคงใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส คุ้มเข้มจุดตรวจหลักที่เข้าออกในพื้นที่ป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น ด้านกงสุลใหญ่ไทยประจำเมืองโกตาบารู ประเทศมาเลเซีย มั่นใจเหตุระเบิดที่ จ.ยะลาจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เพียงเล็กน้อย เผย ปชช.มาเลย์หวั่นสถานการณ์ทางการเมืองมากกว่า
วันนี้ (8 เม.ย.) พ.ต.อ.แวสาแม สาและ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก ยืนยันเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายจะเพิ่มมาตรการเข้มงวดเพื่อรักษาความปลอดภัยในพื้นที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวดมากขึ้น พร้อมกำชับให้มีการตรวจสอบรถทุกประเภทที่เข้ามาในพื้นที่อย่างละเอียด รวมทั้งรถของส่วนราชการก็ไม่มีข้อยกเว้น ใน 3 จุดตรวจหลัก คือ ด่านน้ำตก ด่านบือเร็งทางไปแว้ง และด่านหน้าโรงเรียนบุญลาภ ทางไปสุไหงปาดี ส่วนในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้กระจายการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในบริเวณย่านเศรษฐกิจ และเขตชุมชนเมือง โดยมีจุดตรวจหลักที่ด่านหน้าร้านโปรคอมพิวเตอร์ฯ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เตรียมเดินทางเข้ามาร่วมงานเทศกาลอาหารจานเด็ดโก-ลก 57 ที่เริ่มงานในวันที่ 7 เม.ย.57 ณ ลานอเนกประสงค์สนามกีฬามหาราช ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่6 เม.ย และช่วงเช้าของวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา
ด้านนายแสงทอง ปรีชาวุฒิเดช ประธานชมรมโรงแรม อ.สุไหงโก-ลก ระบุเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่ จ.ยะลา เป็นการดับฝันความสุขของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เตรียมสนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆ ที่จะมีขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่ญาติพี่น้องจะกลับมาเยี่ยมครอบครัว ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียส่วนใหญ่ก็วางแผนเข้ามาร่วมสนุกในกิจกรรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยเช่นกัน
ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าจะทำให้บรรยากาศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่อำเภอชายแดนซบเซาลงกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนผู้ที่จองห้องพักไว้แล้วจะมีการยกเลิกการเดินทางเข้ามาในพื้นที่หรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบอีกครั้งในช่วง 2-3 วันนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ในฐานะภาคเอกชนในพื้นที่ก็ยังพอใจ และเชื่อมั่นกับมาตรการการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคงที่ดูแลความสงบเรียบร้อยจนไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นในพื้นที่มานานมากแล้ว และขอให้รักษามาตรฐานความเข้มงวดนี้ต่อไป
ขณะที่ นายจักรกฤษ กาญจนศูนย์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า จากการพูดคุยกับนักธุรกิจ และประชาชนในรัฐกลันตัน และตรังกานู เกี่ยวกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่ จ.ยะลา พบว่า ส่วนใหญ่รับทราบข้อมูลจากข่าวที่สื่อมาเลเซียนำเสนอแล้ว แต่ไม่ได้ตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก เพราะเป็นเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเจ้าหน้าที่รัฐของไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อการแก้ปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ซึ่งหากเปรียบเทียบกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทย ชาวมาเลเซียส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องปัญหาความขัดเเย้งทางการเมืองในประเทศไทยมากกว่า เพราะเรื่องนี้จะส่งผลกระทบภาพรวมในระดับนโยบายที่เกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงกับสภาพพื้นที่ และคนไทยทั้งประเทศ จึงเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบบรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนตนเองยังมั่นใจในมาตรการการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะงานเทศกาลอาหารจานเด็ดที่ อ.สุไหงโก-ลก เชื่อว่านักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียจะเดินทางมาเที่ยวชม และชิมอาหารรสเด็ดกันเป็นจำนวนมากด้วย
ด้านนางธีรตา โรจน์รังษี กงสุลประจำสถานกงสุลใหญ่เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ด้านเมืองปีนังมีการจองห้องพักเพื่อมาร่วมกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กันแล้ว และคาดว่าส่วนใหญ่จะไม่มีการยกเลิกการเดินทางตามแผนที่วางไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นผลจากความเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่รัฐ และอีกส่วนหนึ่งคือ การทำหน้าที่ในการชี้แจงข้อเท็จจริง และมาตรการรวมทั้งแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง และเข้มงวดของหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงของฝ่ายไทยให้ชาวมาเลเซียได้รับทราบผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ จึงทำให้ชาวมาเลเซียเข้าใจ และไม่ได้ตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก
