กฟผ.เร่งรณรงค์ประหยัดพลังงานหลังการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ยังสูง

สุราษฎร์ธานี - กฟผ.ดึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการนักเรียน นักศึกษาเดินรณรงค์ประหยัดการใช้ไฟฟ้า ชี้สุราษฎร์ฯ ยังใช้ไฟสูงเกินความจำเป็น หวั่นไฟไม่พอใช้ช่วงซ่อมท่อก๊าซไทย-มาเลย์

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (27 มิ.ย.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมด้วยหลายภาคส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินรณรงค์ให้ประชาชนร่วมมือลดการใช้ปริมาณไฟฟ้า เนื่องจากแหล่งก๊าซธรรมชาติพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย JDA -A18 หยุดจ่ายเพื่อติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มความดัน ระหว่างวันที่ 13 มิ.ย.-10 ก.ค.57 ทำให้กระไฟฟ้าในพื้นที่หายไปจากปกติ 710 เมกะวัตต์ แต่หลังจากการรณรงค์ให้ประชาชนปิดไฟคนละดวง พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ยังใช้ไฟฟ้าอยู่ในปริมาณที่สูงเกินเป้าโดยเฉพาะพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ที่ใช้ไฟฟ้าสูง

โดยเมื่อคืนวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีการใช้ไฟฟ้าระหว่างเวลา 18.30-20.30 น. สูงกว่า 370 เมกะวัตต์ ทั้งที่จังหวัดตั้งเป้าใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 330 เมกะวัตต์ ต้องดึงไฟฟ้าจากภาคกลางมาเสริมในพื้นที่ภาคใต้ และหากยังใช้อยู่ในเกณฑ์สูงต่อไปอาจส่งผลกระทบระยะยาวได้

นายสุธน บุญประสงค์ รองผู้ว่าการระบบขนส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า จากการที่แหล่งก๊าซธรรมชาติพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย JDA-A18 หยุดจ่ายก๊าซในระหว่างวันที่ 13 มิ.ย.-10 ก.ค.57 ทำให้โรงไฟฟ้าจะนะ จ.สงขลา ซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ต้องหยุดเดินเครื่อง ส่งผลให้กำลังผลิตในภาคใต้หายไป 710 เมกะวัตต์ ดังนั้น เมื่อกำลังผลิตในภาคใต้ที่เหลืออยู่กับการไฟฟ้าจากภาคกลางมา ทำให้ภาคใต้มีกำลังผลิตไฟฟ้าประมาณ 2,320 เมกะวัตต์ ในขณะที่ กฟภ.คาดการณ์ความต้องการไฟฟ้าสูงสุดในภาคใต้มีประมาณ 2,450 เมกะวัตต์ ซึ่งกระทรวงพลังงาน รวมทั้งหน่วยงานในสังกัดได้จัดให้มีมาตรการรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้า เพื่อให้ประชาชนภาคใต้มีไฟฟ้าใช้เพียงพอทั้งด้านโรงไฟฟ้า ระบบส่ง การสำรองเชื้อเพลิง และการรณรงค์ประหยัดพลังงาน โดยในส่วนของ กฟผ.ได้จัดให้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจง และทำความเข้าใจ ตลอดจนการรณรงค์ให้ความรู้ด้านการประหยัดพลังงานในช่วงเวลาดังกล่าว

สำหรับมาตรการประหยัดของ กฟผ.ประกอบด้วย ด้านโรงไฟฟ้า มีการตรวจสอบโรงไฟฟ้าที่สามารถเดินเครื่องพร้อมผลิตไฟฟ้าตลอดช่วงการทำงาน ด้านระบบส่งตรวจสอบอุปกรณ์สำคัญ และระบบป้องกันให้พร้อมใช้งาน และปรับปรุงระบบป้องกันพิเศษให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ด้านเชื้อเพลิง จัดเตรียมสำรองน้ำมันเตาที่โรงไฟฟ้ากระบี่ และน้ำมันดีเซลที่โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ให้มีปริมาณสำรองสูงสุด ลดการใช้พลังงานโดยร่วมกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กระทรวงพลังงาน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมรณรงค์ลดการใช้ไฟฟ้าต่อกลุ่มอุตสาหกรรมในภาคใต้ และประสานงานกับการไฟฟ้ามาเลเซีย เพื่อขอซื้อไฟฟ้าเสริมในช่วงเวลา 18.00-21.30 น. เพื่อเสริมกำลังผลิตพร้อมได้รณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมประหยัดพลังงานในบ้านพักอาศัย ด้วยการให้ปิดไฟแสงสว่างที่ไม่จำเป็น ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเพิ่มขึ้น 1 องศา (26 องศา) จะทำให้ประหยัดพลังงานได้ร้อยละ 10 พร้อมทั้งทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ ปรับอุณหภูมิภายในตู้เย็นเพิ่มขึ้น 3-6 องศา และปิดโทรทัศน์เมื่อไม่ใช้งาน