ตรัง - โรงไฟฟ้าพลังชีวมวลที่ใหญ่ที่สุดของตรัง จัดแผนรับมือสถานการณ์วิกฤตไฟฟ้าในภาคใต้ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตเต็มพิกัดเป็นวันละ 5 เมกะวัตต์ ในช่วงที่มีการหยุดการจ่ายไฟโรงไฟฟ้าจะนะ เพื่อรองรับช่วงระยะเวลาการใช้ไฟฟ้าสูงสุด เผยเป็นโรงไฟฟ้าที่ครอบคลุมปริมาณการใช้ไฟทั้งอำเภอย่านตาขาว
วันนี้ (24 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติ (JDA-A18) ต้องหยุดซ่อมบำรุง ในช่วงระหว่างวันที่ 13 มิ.ย. ถึงวันที่ 10 ก.ค.2557 รวม 28 วัน จนส่งผลให้โรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา ซึ่งใช้ก๊าซจากแหล่งดังกล่าวเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าต้องหยุดเดินเครื่อง ทำให้ไฟฟ้าหายไปจากระบบถึง 710 เมกะวัตต์ และส่งผลต่อภาพรวมของการผลิตไฟฟ้าภาคใต้ ที่ยังเหลือเพียงแค่ 2,300 เมกะวัตต์ ในขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดโดยเฉลี่ยในพื้นที่ภาคใต้ ช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.57 จะอยู่ที่ประมาณ 2,450 เมกะวัตต์นั้น
นายวนัส วิระพรสวรรค์ ผู้จัดการ บริษัท พาราวีเนียร์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังชีวมวลขนาดใหญ่ที่สุดของ จ.ตรัง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ในควน อ.ย่านตาขาว กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าอย่างเต็มที่ตลอดทั้ง 28 วัน ในช่วงที่มีการปิดโรงไฟฟ้าจะนะ เพื่อส่งเข้าระบบให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้เต็มพิกัดขนาดวันละ 5 เมกะวัตต์ จากเดิมที่สามารถผลิตได้เพียงแค่วันละ 2.5 เมกะวัตต์ เท่านั้น เป็นการรองรับวิกฤตด้านพลังงานของภาคใต้ รวมทั้งจังหวัดตรัง เพื่อป้องกันไฟฟ้าดับในช่วงระยะเวลานี้
สำหรับโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ก่อสร้างด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ งบลงทุนก่อสร้างกว่า 500 ล้านบาท โดยใช้เชื้อเพลิงจากเศษไม้ และขี้เลื่อยจากไม้ยางพารา มีเครื่องยนต์ที่กำเนิดไฟฟ้า 13 ตัว และขณะนี้สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์ 100% หรือจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว ได้ทั้งอำเภอเลยทีเดียว นอกจากนี้ ทางโรงงานยังนำมาตรการประหยัดพลังงานมาใช้ด้วยการลดจำนวนการทำงาน จากเดิมวันละ 2 รอบ เหลือแค่ 1 รอบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในการดำเนินการได้ประมาณ 10-20%