ปัตตานี - เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ายังคุมตัว ‘เสี่ยโจ้’ สอบสวนความผิด หลังอายัดพยานหลักฐานหลายรายการที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ทั้งเรือบรรทุกน้ำมัน บัญชีการเงิน และเอกสารต่างๆ สุดงงกับ DSI ที่ปล่อยให้คดีความผิดทางสรรพากรหมดอายุความไปเฉยๆ ทั้งที่ยังพบพฤติกรรม และพบหลักฐานความผิดในคดีเดิมเพียบ!
วันนี้ (19 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า หลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าตรวจค้นบ้านพักที่ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ ใช้เป็นสำนักงานห้างหุ้นส่วนจำกัด สหทรัพย์ทวีค้าไม้ ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมปัตตานี ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี
ตามคำสั่งของ คสช.เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้อายัดเอกสารบัญชีสำคัญต่างๆ รวมทั้งตราประทับของด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และได้อายัดเรือประมงหลายลำที่ถูกดัดแปลงไว้ใช้บรรทุกน้ำมันเถื่อน รวมทั้งไม้แปรรูป เพื่อตรวจสอบว่ามีกระบวนการเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
ส่วนนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์ซักถาม กรมทหารพราน 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ล่าสุด มีรายงานว่าเสี่ยโจ้ ยอมรับว่าทำธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อนจริง แต่อ้างว่าค้าเฉพาะในทะเลน่านน้ำสากล อยู่นอกเหนือการบังคับใช้กฎหมายไทย
มีรายงานอีกว่า ผลจากการตรวจค้นบ้านพักของ นายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังพบพยานหลักฐานถึงพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยเฉพาะในกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง และอยู่ในระหว่างการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี
ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางชุดปราบปรามภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษมาแล้ว โดยมีความเห็นว่า ดีเอสไอควรถอนประกันตัว นายสหชัย เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมในฐานผิดเดิม คือ หมายจับของดีเอสไอในคดีความผิดทางสรรพากร หลังจากที่ดีเอสไอ ไม่ได้คัดค้านการขอประกันตัวของ นายสหชัย ในคดีนี้เมื่อวันที่18 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งนายสหชัย ได้รับการประกันตัวในวงเงิน 500,000 บาท
พ.อ.จตุพร กลัมพสุต รองผู้บังคับหน่วยกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่าทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มีหนังสือแจ้งมาแล้วว่า คดีดังกล่าวของนายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ นั้น วันนี้ได้หมดอายุความไปแล้ว
ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงปล่อยให้คดีของนายสหชัย หมดอายุความไปเฉยๆ ทั้งๆ ที่ยังพบพฤติกรรมกระทำผิดในฐานคดีเดิม ที่เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โดยคำสั่งของ คสช.สามารถยึดวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ ได้หลายรายการ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบในขณะนี้
สำหรับประวัติของ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ เดิมเป็นชาว จ.เพชรบุรี แต่ครอบครัวได้ย้ายมาทำธุรกิจเรือประมง และตั้งรกรากอยู่ใน จ.ปัตตานี มากว่า 20 ปี จนกระทั่งเป็นที่รู้จักในแวดวงเรือประมงพาณิชย์ ก่อนจะสบโอกาสทำธุรกิจค้าน้ำมันดีเซลเหลือใช้จากเรือประมง โดยรับซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขังอยู่ตามห้องเครื่องใต้ท้องเรือประมงพาณิชย์ นำมาจำหน่ายบนชายฝั่งในราคาที่ถูกกว่าน้ำมันดีเซลตามปั๊มน้ำมันทั่วไป กระทั่งหันมาค้าน้ำมันเต็มรูปแบบด้วยเรือที่ดัดแปลงสำหรับบรรทุกน้ำมัน ซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า
เป็นที่ทราบกันดีใน จ.ปัตตานี ว่า ‘เสี่ยโจ้’ ดำเนินธุรกิจหมิ่นเหม่ต่อการทำผิดกฎหมายอยู่ได้ก็เพราะจ่ายส่วยให้แก่เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน ซึ่ง กอ.รมน.พบบัญชีดังกล่าวอยู่ในกองเอกสารที่ถูกไฟเผาไหม้ไม่หมด พบว่า มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 16 ล้านบาท
