xs
xsm
sm
md
lg

ค้นบ้าน “เสี่ยโจ้-ปัตตานี” พบหลักฐานส่อผิดกม.เพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กอ.รมน.ภาค 4 ใช้กฏอัยการศึกรวบ "เสี่ยโจ้" นักธุรกิจค้าไม้-น้ำมันรายใหญ่ จ.ปัตตานี หลังตรวจค้นพบดวงตราตม.ปลอม ตู้เซฟเก็บเงินสดหลายสิบล้าน บัญชีรายชื่อติดสินบนเจ้าพนักงาน ไม้แปรรูปนับหมื่นแผ่น สารภาพค้าน้ำมันน่านน้ำสากลจริง กฏหมายไทยเอื้อมไม่ถึง เปิดปูมถูกตรวจค้นตั้งแต่ปี 2555 พบเงินเข้า-ออกบัญชีธนาคารนับพันล้านบาท แต่ไม่คืบหน้าสักคดี เหตุกว้างขวางในหมู่ขรก.-รัฐมนตรี แถมดีเอสไอสุดยอด! ปล่อยลอยนวลจนคดีหลบเลี่ยงภาษีหมดอายุความ

วานนี้(19 มิ.ย.) พล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับหน่วยกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.อ.จตุพร กลัมพสูต รองผู้บังคับหน่วย พร้อมเจ้าหน้านิติวิทยาศาสตร์ และพิสูจน์หลักฐานภ.จว.ปัตตานี เข้าตรวจสอบหลักฐานภายในบ้านนายสหชัย เจียรเสริมสิน อายุ 44 ปี หรือ"เสี่ยโจ้" ผู้ต้องหาตามหมายจับของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ฐานในฐานความผิดสรรพกรกรณีหลบเลี่ยงภาษี ที่บ้านเลขที่ 103/49 เขตอุตสาหกรรมองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ปัตตานี ถนนนาเกลือ หมู่ 8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อตรวจสอบสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือแฝงบนดวงตราผ่านแดน ประกอบด้วย ดวงตราประทับขาเข้าตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)มุกดาหาร เลขที่ B95 และดวงตราประทับขาออกตม.มุกดาหาร เลขที่ B96 ดวงตราประทับขาเข้าตม.หนองคาย เลขที่ B135 และดวงประทับตราขาออกตม.หนองคาย เลขที่ B125

ดวงตราประทับขาเข้าตม.สุไหงโก-ลก B80 และดวงตราประทับขาออกตม.สุไหงโก-ลก เลขที่ B71 ดวงประทับตราขาเข้า ตม.บึงกาฬ เลขที่ B27 และดวงตราประทับขาออกตม.บึงกาฬ เลขที่ B26 ซึ่งตม.ปัตตานีประสานไปแล้วได้รับการยืนยันว่า ดวงตราประทับยังอยู่ครบทุกดวง จึงเชื่อว่าปลอมแปลง นอกจากนี้ยังพบตู้เซฟบรรจุเงินสดสกุลไทยและสกุลต่างประเทศนับสิบล้านบาท พร้อมตรวจยึดบัญชีการจ่ายสินบนเจ้าพนักงานไว้ด้วย นอกจากนี้หลายหน่วยงานกำลังตรวจสอบเอกสารและของกลาง ว่ามีอะไรเข้าข่ายผิดกฎหมายเพื่อตรวจยึด

ส่วนนายสหชัยถูกควบคุมตัวเพื่อซักถามตามอำนาจกฎอัยการศึก ที่กรมทหารพราน 44 ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เบื้องต้นนายสหชัยยอมรับว่าค้าน้ำมันเถื่อนจริง แต่ทำเฉพาะในน่านน้ำสากล ซึ่งอยู่นอกเหนือการบังคับใช้กฎหมายไทย

พ.อ.จตุพร กล่าวว่า เป็นการปฏิบัติตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย โดยหจก.สหทรัย์สินทวีค้าไม้ ถูกตรวจสอบและพบของกลางหลายครั้ง แต่ไม่ถูกดำเนินคดี

พ.อ.จตุพร กล่าวว่า หลังการตรวจค้นครั้งนี้ได้ประสานดีเอสไอ เสนอความเห็นให้ถอนประกันนายสหชัย และควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามหมายจับ หลังจากดีเอสไออนุญาตให้ประกันตัวเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2555 ทันทีที่นายสหชัยเข้ามอบตัวในวงเงิน 500,000 บาท แต่ได้รับคำยืนยันจากดีเอสไอว่า คดีหมดอายุความแล้ว ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมดีเอสไอจึงปล่อยให้หมดอายุความ ทั้งที่อยู่ระหว่างการควบคุมตัวของดีเอสไอ ซึ่งจะขอหนังสือชี้แจ้งจากดีเอสไอต่อไป เพราะยังพบพฤติกรรมทำผิดฐานคดีเดิม ยึดวัตถุพยานได้หลายรายการ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.อ.จตุพร ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อน คณะทำงานพิเศษกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค 4 ส่วนหน้า นำกำลังตำรวจและทหารกว่า 30 นาย เข้าตรวจสอบหจก.สินทรัพย์ทวีค้าไม้ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นมาแล้วเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2555 แต่ไม่พบนายสหชัยจึงเดินทางกลับ

ต่อมา พล.ต.พรศักดิ์ และพ.อ.จตุพรเข้าตรวจค้นอีกครั้ง พบกองไม้เนื้อแข็งนับหมื่นแผ่นอยู่ในโรงไม้ และไม้เก่าที่ตรวจสอบเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2555 ยังไม่จำหน่าย แต่มีไม้ใหม่เข้ามาเพิ่มอย่างผิดปกติ นอกจากนี้ยังพบถังบรรจุน้ำมันขนาดใหญ่ 4 ถัง ท่อขนาดต่างๆ ซึ่งต้องตรวจสอบว่าได้รับอนุญาตจากอุตสาหกรรมจังหวัดหรือไม่ โดยเฉพาะท่อเหล็กจะประสานชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด(อีโอดี) และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภ.จว.ปัตตานี เข้าตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับการประกอบชิ้นส่วนระเบิดหรือไม่ ส่วนถังน้ำมันเชื่อว่านำไปใส่เรือดัดแปลงบรรทุกน้ำมัน

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ไปที่ท่าจอดเรืออบจ. ปากแม่น้ำปัตตานี ต.บานา ซึ่งเป็นของทางราชการ แต่มีการทำรั้วมาปิดเส้นทาง พบอุปกรณ์ดัดแปลงเรือ เรือไม้ เรือเหล็กดัดแปลงเป็นเรือบรรทุกน้ำมัน จึงได้อายัดไว้ 5 ลำเพื่อตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งจัดทหาร 10 นายมาเฝ้าดูแล ห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออกเพื่อรอตรวจสอบเช่นกัน

เวลาประมาณ 11.00 น. นายสหชัยมาพบพล.ต.พรศักดิ์ พ.อ.จตุพร พ.อ.(พิเศษ)คมกฤต รัตนฉายา รองเสนาธิการทณฑลทหารบก(มทบ.)ที่ 42 จึงได้เข้าตรวจค้นภายในสำนักงาน พบเอกสารรายรับ-รายจ่ายการค้าไม้และน้ำมัน บัญชีธนาคาร เงินไทย เงินดอลลาร์ เงินริงกิตมาเลเซีย และหลักฐานชิ้นสำคัญเป็นตราประทับเข้า-ออกด่านชายแดน ซึ่งตม.ปัตตานีตรวจสอบแล้วเป็นของปลอม จึงได้ควบคุมตัวนายสหชัยตามกฎอัยการศึก ในข้อกล่าวหาเกี่ยวข้องกับความมั่นคง ไปสอบปากคำที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร

ข่าวแจ้งว่า นายสหชัยเป็นนักธุรกิจผู้กว้างขวางของจ.ปัตตานี มีกิจการขนถ่ายน้ำมันกลางทะเล และกิจการค้าไม้ เป็นที่รู้จักของเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ โดยเฉพาะนักการเมืองระดับรัฐมนตรีหลายกระทรวง เมื่อปี 2555 เคยถูกจับกุมในคดีหวยใต้ดิน โต๊ะบอลรายใหญ่ รถดัดแปลงบรรทุกน้ำมันเถื่อน เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน และตกเป็นผู้ต้องสัยสัยในหลายคดี แต่การจับกุมดำเนินคดีหรือตรวจสอบเป็นไปได้ยาก เพราะทุกครั้งจะมีการวิ่งเต้นล้มคดีได้เกือบทุกคดี ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติในพื้นที่ไม่กล้าตรวจสอบธุรกรรม แม้กระทั่งคดีปล้นเงินสดหลายล้านบาท ที่มีความเชื่อมโยงกับการเปิดกาสิโนกลางอ่าวไทยก็เงียบหายไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2555 ชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อน คณะทำงานพิเศษกอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า และดีเอสไอเข้าตรวจค้นหจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ หลังดีเอสไอออกหมายจับนายสหชัยข้อหาหลีกเลี่ยงภาษีสรรพากร ยึดของกลางเป็นรถบรรทุกดัดแปลงขนน้ำมัน 2 คัน ความจุรวม 36,000 ลิตร รถบรรทุกห้องเย็น 10 ล้อ 2 คันดัดแปลงเพื่อขนน้ำมัน บัญชีรายชื่อจ่ายส่วยให้แก่หน่วยราชการ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอบางคนด้วย โดยจ่ายส่วยสูงถึง 16 ล้านบาทต่อเดือน และยังพบไม้เถื่อน เงินสดสกุลต่างประเทศและเงินไทยประมาณ 23 ล้านบาท บัญชีธนาคารที่มีเงินเข้าออกหลายร้อยล้านบาท บางบัญชีมีนับพันล้านบาท ซึ่งได้มอบหมายให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ตรวจสอบ

วันที่ 18 ตุลาคม 2555 ชุดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นซ้ำอีกครั้งหนึ่ง พบการเผาทำลายเอกสารสำคัญหลายรายการ รถสิบล้อ 2 คัน ทะเบียน 81-3820 นครศรีธรรมราช และทะเบียน 81-2178 จันทบุรี ซึ่งดัดแปลงเป็นรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนที่ตรวจยึดไว้หายไป แต่พบอุปกรณ์การพนันและแผ่นซีดีลามก 2,500 แผ่น

และวันที่ 29 ตุลาคม 2555 เข้าตรวจสอบในโรงไม้อีกครั้ง ซึ่งนอกจากจะมีไม้แปรรูปขนาดใหญ่แล้ว ยังพบรถบรรทุกดัดแปลง ป้ายทะเบียนปลอม โพยการพนัน แต่ยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ ทั้งที่เป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ยังไม่เข้าตรวจสอบ ทั้งที่ของกลางถูกสั่งห้ามเคลื่อนย้าย 2 สัปดาห์แล้ว

ซึ่งในวันนั้นนายสหชัยให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้ค้าน้ำมันเถื่อน เพียงรับจ้างบรรทุกน้ำมันจากประเทศเพื่อนบ้านไปยังประเทศที่สาม ใช้เส้นทางน้ำน่านน้ำสากล ส่วนส่วยเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะไม่ได้จ่ายให้ใครเลย ส่วนไม้ทั้งหมดนำเข้าจากลาว หลังจากร่วมลงทุนทำสัมปทานป่าไม้ ลำเลียงมาทางรถผ่านด่านตม.หนองคาย และตม.บึงกาฬ ปีละ 2,000-3,000 ลูกบาศก์เมตร ส่วนรถบรรทุกดัดแปลงทั้ง 4 คันเป็นของคนอื่นมาฝากจอดไว้ ส่วนเอกสารคล้ายโพยพนันก็ไม่ทราบว่าเป็นของใคร เพราะตนดูแลลูกน้องไม่ทั่วถึง รวมทั้งไม่เคยสนับสนุนกลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น