ยะลา - คณะนักศึกษาหลักสูตร “พัฒนาสัมพันธ์ผู้บริหาร” กว่า 170 คน เข้าเยี่ยม พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 และร่วมรับฟังการปฏิบัติงานของกำลังพลในพื้นที่ จชต. เพื่อให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น ทัศนคติ และประสบการณ์ เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่
เมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร จังหวัดปัตตานี คณะนักศึกษาหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ รุ่นที่ 10 และผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร รุ่นที่ 21 ของโรงเรียนกิจการพลเรือน กรมกิจการทหารบก จำนวน 170 คน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ในโอกาสดำรงตำแหน่งใหม่ พร้อมมอบของที่ระลึก และร่วมรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของกำลังพลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
นางรุ่งนภา งานภิญโญ ประธานนักศึกษาหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร จังหวัดชายแดนภาคใต้ รุ่นที่ 10 กล่าวภายหลังรับฟังบรรยายสรุปว่า พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่น่ากลัว แต่ในทางกลับกันจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่อบอุ่น ผู้คนน่ารัก ภาคประชาชนต้องช่วยกัน ดูแลกัน เพื่อที่จะทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้มีภาพลักษณ์ที่ดีเหมือนในอดีตอีกครั้ง โดยคิดว่าต้องปลูกฝัง และบ่มเพาะเยาวชนให้มีจริยธรรมในการรักบ้านเกิดตนเอง และอยากให้ประชาชนทั่วประเทศได้ส่งกำลังใจให้พี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ด้าน พ.อ.มหศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา กล่าวว่า การศึกษาหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร รุ่นที่ 21 ของโรงเรียนกิจการพลเรือน กรมกิจการทหารบก กล่าวว่า หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ของผู้บริหาร สำหรับวันนี้นักศึกษาได้มาฟังผลการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นอกจากจะมาฟังบรรยายสรุปของหน่วยแล้ว นักศึกษายังได้ทำกิจกรรมร่วมกับ บริษัทเจียไต๋ นำเมล็ดพันธุ์พืชมามอบให้แก่หน่วยต่างๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป
ทั้งนี้ กองทัพบกโดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้ตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรผู้บริหารภาครัฐ และภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะผนึกกันเป็นแรงผลักดัน สนับสนุนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้น ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน รวมแล้ว 9 รุ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษา ทั้งจากภาครัฐ และภาคเอกชน ได้มีโอกาสและเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น ทัศนคติ และประสบการณ์ต่างๆ ซึ่งจะทำให้แต่ละฝ่ายมีมุมมอง และเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น สามารถประสานงานได้อย่างสอดคล้องมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญ คือ ก่อให้เกิดมิตรภาพ ความสามัคคีต่อกัน มีความเข้าใจปัญหาที่แท้จริงของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ถือเป็นพลังสำคัญในการเพิ่มศักยภาพในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
