ตร.พัทลุงหาหลักฐานจากสื่อ และโซเชียลฯ เรียกเก็บ “ทองคำ” เป็นสมบัติของชาติ

พัทลุง - ปชช.จากต่างจังหวัดยังคงแห่มาดูแหล่งทองคำโบราณที่ อ.เขาชัยสน อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ตร.พัทลุง เร่งรวบรวบภาพจากสื่อต่างๆ เพื่อรวบรวมบุคคลในภาพที่เข้ามาขุดทอง มาเป็นพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกให้นำทองคำมาคืนเป็นสมบัติ ด้านนักโบราณคดีสำรวจประวัติวัดเขียนบางแก้วเกี่ยวโยงกับทองคำหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ที่บริเวณแปลงสวนปาล์มแหล่งพบทองคำโบราณในพื้นที่ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เช้าวันนี้ (4 มิ.ย.) ยังคงมีชาวบ้านเดินทางมาดูแหล่งพบทองคำอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มากเหมือนหลายวันก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านต่างจังหวัดที่อยากเดินทางมาดูให้เห็นด้วยสายตาของตัวเอง และบางรายเดินทางมาเพื่อขอขมาโดยนำดอกไม้ธูปเทียน น้ำแดง มาจุดบูชาเจ้าที่ ริมรั้วสายลวดหนามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารวางกันไว้

ในขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง กำลังเร่งรวบรวมภาพจากสื่อต่างๆ ไม่ว่าทางทีวี หนังสือพิมพ์ ทางเฟซบุ๊ก และทางไลน์ เพื่อรวมรวมบุคคลในภาพที่เข้าทำการขุดค้นหาทองคำโบราณในสวนปาล์มท้องที่ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง มาเป็นพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมออกหมายเรียก และสืบหาทองคำที่ชาวบ้านเอาไปกลับคืนมาเป็นสมบัติของชาติต่อไป

ด้าน นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ออกหนังสือขอความร่วมประชาชนขอทองคำโบราณคืนจากชาวบ้าน ซึ่งหากท่านใดที่มีความประสงค์จะคืนทองคำให้แก่ทางราชการเพื่อเป็นสมบัติของชาติต่อไป สามารถแจ้งความประสงได้ที่ศาลากลางจังหวัด ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-7461-795 ได้ในเวลาราชการ และจะเปิดห้องศาลากลางรับคืนทองคำที่ชั้น 2 ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้

ในขณะที่นักโบราณคดียังคงลงพื้นที่วัดเขียนบางแก้ว อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เพื่อสืบหาข้อมูลร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของวัดว่าจะมีความเกี่ยวโยงกับทองคำโบราณหรือไม่ และจากการสอบถามนักวิชาการอิสระประวัติศาสตร์จังหวัดพัทลุง คาดว่าเป็นไปได้สูงที่ทองคำดังกล่าวชาวบ้านรวบรวมนำมาเป็นพุทธบูชาในการห่อองค์พระธาตุวัดเขียนบางแก้ว ที่มีอายุการก่อสร้างยุคเดียวกับพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช แต่ด้วยเหตุผลของโรคระบาด และโจรชุกชุมในสมัยก่อน จึงนำทองคำฝังไว้ก่อนจะเดินทางไปถึงพระธาตุ