“วิ ทับแสง” วอนส่งทองคืนให้เป็นสมบัติของชาติ

พัทลุง - กรมศิลปากรที่ 14 จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าขุดทองเป็นวันที่ 2 โดยตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ยังไม่พบทองแต่อย่างใด ด้านเจ้าของที่วอนผู้ที่นำทองไปให้นำทองกลับมาคืนให้แก่ทางราชการ

วันนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงานความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่สำนักกรมศิลปากรที่ 14 จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดชุดเจ้าหน้าที่ขุดดินหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และค้นหาทองคำในสวนปาล์มของ นายวิ ทับแสง ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ซึ่งตลอดทั้งวัน นายอาณัติ บำรุงวงค์ ผอ.สำนักกรมศิลปากรที่ 14 ได้นำเจ้าหน้าที่ จำนวน 15 คน เข้าขุดดินตั้งแต่ช่วงเช้า

ในเบื้องต้นได้ขุดปรับหน้าดินเพื่อให้ถึงดินเดิม และใช้เครื่องมือขุดดินออกเป็นชั้นๆ นำดินไปใช้ตะแกรงร่อนหาเศษวัตถุโบราณ และค่อยๆ ขุดดินลงไปเรื่อยๆ ส่วนบรรยากาศบริเวณรอบๆ นั้น ประชาชนยังคงเดินทางไปจับจองที่นั่งริมรั้ว เพื่อสังเกตดูเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างใกล้ชิด ซึ่งตั้งแต่เช่าจนบ่ายของวันนี้ ก็ยังขุดไม่พบทองคำ และหลักฐานทางประวัติศาสตร์เพิ่มเติมแต่อย่างใด

ทางด้านนายวิ ทับแสง เจ้าของสถานที่เผยว่า ก่อนหน้านี้ได้ส่งมอบทองคำให้เป็นสมบัติของชาติแล้ว 2 รอบ จึงเรียกร้องให้ทุกคนที่เก็บทองไปได้ ให้นำคืนแก่แผ่นดิน และจะพยายามช่วยตามหาทองนำมาคืนให้มากที่สุดด้วย เพราะการคืนทองคำให้ส่วนราชการ เจ้าของก็ไม่ได้ขาดทุน บางครั้งอาจจะมีเงินค่าตอบแทนมากกว่าขายให้แก่ร้านค้าทอง และที่สำคัญที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ทำความดีมาตลอด เพื่อจังหวัด และส่วนรวม ผู้ใดเก็บรักษาทองคำไว้คนละเล็กละน้อย ก็ควรจะแจ้งมาคืนโดยผ่านที่จุดไหนก็ได้ ทองที่คืนไปแล้วก็เชื่อว่าจะเป็นของจังหวัดพัทลุงแน่นอน

ทางด้านพระครูโสภณปัญญาสาร เจ้าคณะอำเภอมะนัง จ.สตูล เกจิชื่อดังสายเขาอ้อ จ.พัทลุง เผยว่า ในฐานะที่เป็นชาวพัทลุงโดยกำเนิด ก็ได้ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีที่ขุดพบทองคำแท่ง ทองแผ่น ในจังหวัดพัทลุง และยังได้ตั้งสติทำพิธีกรรมตามหลักพระพุทธศาสนา ด้วยการนั่งสมาธิ และใช้พลังจิต ก็ทำให้นึกได้ว่าเมื่อ 5 ชั่วอายุคน หรือประมาณ 500 ปีก่อน เป็นช่วงที่มีการบูรณะพระธาตุเจย์ดีวัดเขียนบางแก้ว ซึ่งห่างจากจุดพบทองประมาณ 10 กม. ในระหว่างที่มีการเตรียมระดมทอง และทรัพย์มีค่าอื่นๆ ทองคำก็ถูกคนร้ายปล้นหายไป เมื่อนำไปไหนไม่ได้คนร้ายอาจจะฝังไว้

จึงเรียกร้องให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ศึกษาประวัติศาสตร์การสร้างเจย์ดี และบูรณะเจย์ดีวัดเขียนบางแก้วด้วย ไม่ใช่มุ่งแต่พระธาตุเมืองคอนเพียงอย่างเดียว สำหรับผู้ที่เก็บรักษาทองคำไว้ก็เห็นว่าไม่น่าจะอันตรายอะไร เพียงแต่จะทำมาหากินไม่ขึ้น เพราะไปขัดขวางเจตนารมณ์ของเจ้าของเดิม ถ้าเป็นไปได้ให้นำคืนจังหวัด และร่วมกันสร้างสถานที่เก็บรักษาทอง และทรัพย์สินอื่นๆ ไว้ในจุดที่เหมาะสม อาจจะเป็นที่วัดเขียนบางแก้ว และบ่อน้ำร้อนเขาชัยสนก็จะเป็นการดี และตนก็พร้อมที่ร่วมกันรณรงค์จัดหาทุนก่อสร้างด้วย