ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต ประชุมคณะทำงานแก้ปัญหาร้องเรียนขุดลอกร่องน้ำอ่าวสะปำเกาะแก้ว ส่งผลกระทบวิถีชีวิตประมง ได้ข้อสรุปให้ชะลอการขุดลอก เปลี่ยนวิธีการขุด ลดผลกระทบทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (15 พ.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหากรณีร้องเรียนการคัดค้านวิธีการขุดลอกร่องน้ำของศูนย์พัฒนาและบำรุงทางน้ำที่ 3 ในจังหวัดภูเก็ต มีนายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการเกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ประมงจังหวัดภูเก็ต ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 15 ภูเก็ต และตัวแทนภาคเกษตรและกลุ่มผู้ประกอบการประมง เข้าร่วมการประชุม
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าว สืบเนื่องจากสภาเกษตรจังหวัดภูเก็ต โดยนายสมชาย สกุลชิต ประธานสภาเกษตรจังหวัดภูเก็ต ได้ยื่นหนังสือถึงนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กรณีคัดค้านวิธีการขุดลอกร่องน้ำบริเวณอ่าวสะปำ หมู่ 5 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต ของศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 กรมเจ้าท่า ซึ่งใช้วิธีการขุดด้วยการใช้เรือติดหัวสว่านปั่นเลนแล้วสูบทิ้งในทะเล ซึ่งเป็นวิธีการที่ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิต และการประกอบอาชีพของเกษตรกร เช่น ป่าเลนเปลี่ยนสภาพเป็นพื้นทราย สัตว์น้ำทะเลหลายชนิดในพื้นที่หายไปจากทะเล เป็นต้น ในการนี้ ทางจังหวัดภูเก็ต จึงได้มีการประชุมทุกฝ่ายเกี่ยวข้องดังกล่าวเพื่อหาทางออกของปัญหาร่วมกันต่อไป
จากการประชุม โดยในส่วนของตัวแทนจากสำนักงานเจ้าท่าฯ ได้ชี้แจงถึงความเป็นมาของโครงการขุดลอกร่องน้ำในจังหวัดภูเก็ตว่า สำหรับโครงการฯ ล่าสุดนี้ ทางศูนย์พัฒนาและบำรุงทางน้ำที่ 3 กรมเจ้าท่า ได้รับงบมา จำนวน 12 ล้านบาท ในการดำเนินการขุดลอกร่องน้ำโดยใช้เรือประเภทหัวสว่านในการขุดตักดิน ซึ่งไม่ใช่การปั่นเลน แต่เป็นการใช้ท่อดูด โดยมีระยะทางในการขุด จำนวน 3,000 เมตร มีความลึก 1.5 เมตร จากระดับน้ำทะเลขึ้นสูง ความกว้างของร่องน้ำ 30 เมตร เรือประมง เรือสปีดโบต ฯลฯ สามารถเข้าออกสวนทางกันได้ และสำหรับโคลนที่ได้จากการขุดลอกก็เป็นโคลนปนทราย ซึ่งเป็นดินโคลนธรรมชาติของทะเลในพื้นที่ ไม่ใช่ดินโคลนเน่าเสีย
อย่างไรก็ตาม การขุดลอกร่องน้ำบริเวณอ่าวสะปำในครั้งนี้ ก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของชาวประมงของชาวบ้าน ที่ต้องการให้ทางเจ้าท่าดำเนินการขุดลอกร่องน้ำ ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวบ้านให้สามารถนำเรือออกทะเลไปจับสัตว์น้ำมาค้าขายได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องรอเฉพาะช่วงน้ำขึ้น และการขุดลอกร่องน้ำครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการบำรุงรักษาร่องน้ำ
ขณะที่ผู้แทนผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอให้ทางเจ้าท่าหยุดใช้วิธีการขุดลองร่องน้ำด้วยการใช้เรือติดหัวสว่าน ให้เสนอวิธีการพร้อมมาตรการป้องกันแก้ไข และให้ทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ให้ชัดเจน และจัดฟังความเห็นของประชาชน
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการเสนอความเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุมทุกฝ่าย นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวสรุปในที่ประชุมว่า เสียงจากที่ประชุมส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ได้คัดค้านการขุดลอกร่องน้ำในครั้งนี้ เพียงแต่ต้องการให้เปลี่ยนวิธีการขุดนั้น เห็นควรที่จะให้ชะลอการดำเนินการขุดลอกร่องน้ำออกไปก่อน ส่วนจะชะลอหรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรมเจ้าท่าของผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ และให้เปลี่ยนวิธีการขุดโดยทันทีเพื่อลดผลกระทบฯ