xs
xsm
sm
md
lg

“เจ้าท่า” เปิดตูดหลังถูกชาวจะนะ-สตูล ยึดเวที ค.1 ท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กรมเจ้าท่า เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โครงการศึกษาทบทวนและสำรวจออกแบบเพื่อก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ 2 ชาวจะนะ สตูล ยกทัพยึดเวที จี้กรมเจ้าท่าเซ็นเอกสารให้ยกเลิก ค.1 เป็นโมฆะ “เจ้าท่า” ทนฟังอยู่ครึ่งวัน ยันไม่เซ็นก่อนเปิดตูดหนี

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (28 เม.ย.) ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลนาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา กรมเจ้าท่า ร่วมกัลป์ บริษัทที่ปรึกษา จัดสัมมนาและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 หรือ ค.1 โครงการศึกษาทบทวนและสำรวจออกแบบเพื่อก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ 2 โดยมีนายสมชาย สุมนัสขจรกุล รองอธิบดีกรมเจ้าท่า และนายทวีวุฒิสังข์ศิริ นายอำเภอจะนะ เป็นประธานเปิดการสัมมนา และมีประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมเป็นจำนวนมากจนล้นห้องประชุม นอกจากนี้ ยังมีประชาชนจาก จ.สตูล เดินทางมาร่วมสัมมนาในครั้งนี้ด้วย 1 คันรถบัส เนื่องจากโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล

ทั้งนี้ ตามกำหนดการที่กรมเจ้าท่ากำหนดไว้ คือ หลังจาก นายอำเภอจะนะ กล่าวเปิดงานเสร็จ จะมีผู้จัดการโครงการ ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ชี้แจงความเป็นมาให้แก่ประชาชนฟัง แต่เมื่อนายอำเภอ กล่าวเปิดงานเสร็จ กลุ่มชาวบ้านได้ก็ได้ทำการยึดเวทีสัมมนาทันที โดยใช้สิทธิของประชาชนแสดงความคิดเห็นต่อโครงการท่าเรือน้ำลึกสงขลา ครั้งที่ 2 และไม่ได้เปิดโอกาสให้ทางเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าพูดแต่อย่างใด กลายเป็นเวทีของประชาชนที่แท้จริง

โดยตัวแทนชาวบ้านเปิดประเด็นด้วยถามคำถามต่อกรมเจ้าท่าว่า คลองมีเขตหรือไม่ ทะเลมีเขตหรือไม่ กรมเจ้าท่าอนุมัติให้มีการปักเขตคลอง เขตทะเลได้อย่างไร โดยจะมีการปักหลักและถมที่ เทพา-สงขลา ได้รับผลกระทบหมดเพราะโครงการก่อสร้างท่าเรือน้าลึกเป็นโครงการที่ใหญ่มาก อยากให้กรมเจ้าท่าทำมาบตาพุดให้ดีก่อน ชาวบ้านถึงจะเชื่อว่า กรมเจ้าท่าทำได้ เพราะฉะนั้น ประชาชนต้องการยึด ม.66 และยึดตามหลักศาสนาอิสลามที่ต้องการรักษาทรัพยากรไว้ให้อัลเลาะห์ ที่สำคัญเราทุกคนต้องรักษาสิทธิของตัวเอง

ซึ่งชาวบ้านเห็นผลงานของกรมเจ้าท่าก่อนหน้านี้แล้ว กรมเจ้าท่า ไม่เคยมีชี้แจงว่าโครงการดังกล่าวใช้พื้นที่เท่าไหร่ รัศมีการก่อสร้างส่งผลให้ชาวบ้านไม่สามารถทำมาหากินได้ แล้วการสร้างท่าเรือคนที่ได้ประโยชน์คือใคร เพราะสงขลาคือ แหล่งอาหารของอาเซียน พี่น้องจึงต้องการที่จะรักษาทะเลไว้

ชาบ้านคนที่ 2 ลุกขึ้นชี้แจงต่อว่า ชาวบ้านขอหยุด ค.1 ครั้งนี้ไปเลย กรมเจ้าท่าใช้ ม.67 มาอ้าง แต่ชาวบ้านขอใช้ ม.66 ซึ่ง ม.67 มันคลุมเครือเลยเอาไปอ้างได้ ขณะนี้รัฐบาลกลางกำลังวุ่นวาย กำลังปฏิรูปกันทั้งหมด โครงการทั้งหมด ทักษิณ เป็นคนคิด ยิ่งลักษณ์เป็นคนทำ นี่คือรัฐบาลเสื้อแดง คนจะนะได้รับบทเรียนได้รับความรู้จากโครงการโรงแยกก๊าซแล้ว เพราะฉะนั้นพวกเราจะสู้จนถึงที่สุด ชาวบ้านมีความสุขโดยไม่ต้องซื้อมาด้วยเงิน เพราะทุกคนที่นี่มีความสุขกับวิถีชีวิตดั้งเดิมอยู่แล้ว คนจะนะเสียสละมามากแล้วกับกรณีโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โรง และโรงแยกก๊าซ โครงการที่มีอยู่เอือมระอาแล้ว หลังจากนี้ชาวจะนะ จะไม่เสียสละอีกแล้ว

ด้าน นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี คณะทำงานเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนา จ.สตูล กล่าวว่า ตอนนี้ที่ จ.สตูล อุทยานฯ ไม่ให้เพิกถอนแล้ว EHIA ถูกยกเลิกไปแล้ว งบ 2.2 ล้านล้าน ก็ถูกยกเลิก คนสตูลใกล้จะได้ประกาศชัยชนะแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าที่สตูลทำไม่ได้ ที่จะนะก็ทำไม่ได้ รองอธิบดีกรมเจ้าท่ารู้แล้วจะมาทำไมอีก ซึ่งทุกๆ ครั้งกรมเจ้าท่าตอบคำถามไม่ได้ อธิบายไม่ได้ทุกครั้ง

จึงมีข้อเสนอ และถามกรมเจ้าท่าว่า ถ้าคิดว่าไม่ใช่ลูกน้องทักษิณ ก็ขอให้ยกเลิกโครงการนี้ ให้มีการปฏิรูปก่อนแล้วค่อยมาว่ากันใหม่

นายประสิทธิไชย หนูนวล มาจาก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และเป็นคณะทำงานปฏิรูประบบ EIA กล่าวว่า รับไม่ได้กับพฤติกรรมที่ผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก โครงการนี้อยู่ในโครงการความรุนแรงใน ม.67 วรรค 2 ซึ่ง ม.66 เขียนก่อน คือ ลำดับที่ 1 ให้อำนาจกับประชาชนในการกำหนดอนาคตประเทศไทย ยกตัวอย่างพฤติกรรมของบริษัทที่ปรึกษา ที่เคยทำที่ท่าศาลา เคยจัดเวทีขอดีเบตหลายครั้งแต่ไม่กล้ามา เพราะตอบคำถามประชาชนไม่ได้ ให้ประชาชนมั่นใจว่าเราทำถูกต้องแล้ว เพราะเราทำตาม กม.ถ้ามีราชการมาอ้างว่าเป็นโครงการราชการชาวบ้านคัดค้านไม่ได้นั้น ประชาชนสามารถฟ้องได้เลย และอีกอย่างที่เห็นได้ชัดแล้วคือ EIA ในประเทศไทยไม่มีฉบับไหนที่ไม่ผ่าย หลังจากนี้เราต้องติดตามต่อว่า เขาจะเขียนให้ ค.1 นี้ผ่านอีกหรือไม่

นพ.สุภัทร์ ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ ซึ่งเดินทางมาร่วมเวทีด้วย กล่าวว่า โครงการนี้ไม่สามารถรับฟังความคิดเห็นแยกส่วนได้ คือ หลายๆ โครงการจะแยกส่วนทำไม่ได้ มันต้องศึกษาทั้งระบบจึงจะยุติธรรม ถ้าจะทำการศึกษาขอให้ศึกษาโดยภาพรวม อยากให้มีการปฏิรูป EIA จริงๆ การนิยามให้รัศมี 5 กม.ไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง มันเป็นโจทย์ของการเปลี่ยนแปลงทั้งจังหวัด มาบตาพุดเต็มแล้ว สิ่งที่ตามมามันคืออะไร เพราะที่นี่มีโรงแยกก๊าซ โรงไฟฟ้า พร้อมแล้ว มีศักยภาพที่เขาเตรียมไว้รองรับเพียงพอ

ในฐานะส่วนราชการ ต้องแยกตัวเองออกมาจากบริษัทที่ปรึกษา แล้วทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย หาความจริงให้ชาวบ้าน ประเทศต้องพัฒนาก็ใช่ แต่ในการพัฒนามันต้องไม่กระทบต่อธรรมชาติ กับวิถีที่มีอยู่ เพราะฉะนั้นรับไม่ได้กับการเปิดรับฟังความคิดเห็นในลักษณะนี้ มันไม่ยุติธรรมต่อชาวบ้าน

จากนั้น ก็ยังมีชาวบ้านทั้งในพื้นที่ และจาก จ.สตูล ผลัดเปลี่ยนกันแสดงความคิดเห็น จนเวลาประมาณ 12.30 น. ชาวบ้านก็ขอให้กรมเจ้าท่า และบริษัทที่ปรึกเซ็นเอกสาร และประกาศให้เวทีความคิดเห็นครั้งนี้เป็นโมฆะ แต่ทางกรมเจ้าท่าไม่ยอมเซ็น และกล่าวว่าจะไม่มีการเซ็นเอกสารใดๆ ก่อนทั้งหมดจะลุกออกจากหอประชุมไป หลังจากนั่งฟังชาวบ้านมาครึ่งค่อนวัน

ส่วนชาวบ้าน หลังจากกรมเจ้าท่า และบริษัทที่ปรึกษาออกไปแล้วนั้น ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ยังคงปักหลักเฝ้าพื้นที่อยู่เพื่อให้แน่ใจว่า จะไม่มีการประชุมใดๆ เกิดขึ้นอีก
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น