ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ขบวนเดินด้วยใจปากบารา-จะนะ ต่อต้านเมกะโปรเจกต์ท่าเรือน้ำลึกปากรา เดินหน้าด้วยความมุ่งมั่น ผ่าน ต.ท่าแพ อ.แประ จ.สตูล ชื่นใจเยาวชนท่าแพร่วมขบวนด้วย ตำรวจอำนวยความสะดวกเต็มที่ ขณะที่มีป้ายสนับสนุนโครงการติดต้อนรับตลอดเส้นทางเช่นกัน แต่ขบวนยังเดินต่อไปด้วยความสงบ
วันนี้ (23 ต.ค.) ขบวนของเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล-สงขลา ซึ่งมีการเดินขบวน “เดินด้วยใจปากบารา-จะนะ” เพื่อแสดงพลังต่อต้านโครงการเมกะโปรเจกต์ชุดใหญ่ “แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล” หรือโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา และท่าเรือน้ำลึกสวนกง กับโครงการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หลังจากรัฐบาลได้แนบท้ายโครงการดังกล่าวในบัญชีพระราชบัญญัติเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งประชาชนกลุ่มเดินด้วยใจปากบารา-จะนะ เริ่มออกเดินเท้าจากท่าเรือท่องเที่ยวปากบารา ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา (22 ต.ค.) จนถึงปลายทางที่บ้านสวนกง อ.จะนะ จ.สงขลา ด้วยระยะทาง 220 กม. ในวันที่ 28 ต.ค.นี้
ล่าสุด เช้าวันนี้ กลุ่มด้วยใจปากบารา-จะนะ ได้เริ่มออกเดินทางต่อจาก ต.ท่าแพ อ.แประ จ.สตูล เมื่อเวลา 06.30 น. โดยมีผู้ร่วมขบวนประมาณ 30 คน ทั้งนี้ นายสมบูรณ์ คำแหง เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนา จ.สตูล-สงขลา บอกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ปลัด อบต.ท่าแพ ได้โทร.มาแจ้งว่า อาจจะมีฝ่ายสนับสนุนโครงการแลนด์บริดจ์ สงขลา-สตูล ประมาณ 50 คน จะเข้ามาร่วมในวงเสวนาซึ่งทางเครือข่ายฯ จะให้ความรู้แก่ประชาชนใน ต.ท่าแพ ซึ่งเป็นจุดพักแรมในคืนที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า ไม่พบเห็นมีใครมาแต่อย่างใด
นายสมบูรณ์ คำแหง กล่าวต่อว่า เมื่อเช้าที่ขบวนได้เริ่มเดินต่อนั้น ก็พบว่ามีกลุ่มแกนนำผู้สนับสนุนท่าเรือน้ำลึกฯ ประมาณ 4-5 คน มาคอยสังเกตการณ์ และพบว่าได้มีป้ายข้อความที่เขียนสนับสนุนโครงการเรือน้ำลึกฯ ติดไว้ตลอดทางที่บริเวณเสาไฟฟ้า และราวสะพาน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น กลุ่มเดินด้วยใจปากบารา-จะนะ ก็ยังคงเดินต่อไปด้วยความสงบ ซึ่งตนเองก็คิดว่า นี่คือความเห็นต่างสำหรับประชาชนที่ยังไม่ทราบข้อมูล ถือเป็นสีสันระหว่างเดินทาง
ขณะเดียวกัน ระหว่างทางในพื้นที่ ต.ท่าแพ ก็ได้มีกลุ่มเยาวชนประมาณกว่า 10 คน มาร่วมเดินขบวนกับพวกเราด้วย ก็รู้สึกดีใจ และเป็นกำลังใจให้แก่กลุ่มเดินด้วยใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม คืนนี้จุดพักจุดที่ 2 คือ ที่ศูนย์ศานติธรรม ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง ก็จะเปิดเวทีร่วมวงพูดคุยให้ความรู้แก่ประชาชนที่สนใจอีกด้วย
ทั้งนี้ ในจุกพักแวะที่ ต.ท่าแพ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้ามาพูดคุย และอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยจะขับรถนำขบวนไปจนถึงเขตต่อแดน