ป.ป.ท.สอบคดีนักธุรกิจดำน้ำร้องถูก ตร.เรียกรับผลประโยชน์

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เลขาธิการ ป.ป.ท.เผยลงพื้นที่หาข่าวผู้ประกอบการร้องเรียน ตร.ฉลอง เรียกรับผลประโยชน์คืบแล้ว พบมีนายตำรวจชั้นประทวน 2 นาย ย้ำทุกคดีที่มีการร้องเรียนจะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วเพื่อเป็นแบบอย่าง

วันนี้ (3 พ.ค.) พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท) แถลงข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้ากรณีสมาคมดำน้ำ จ.ภูเก็ต ร้องเรียนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง เรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการธุรกิจดำน้ำในพื้นที่จนเป็นข่าวโด่งดังไปก่อนหน้านี้ว่า หลังจากรับเรื่องร้องเรียน ทาง ป.ป.ท.ได้ส่งชุดเฉพาะกิจ (ฉก.) สำนักงาน ป.ป.ท.ลงมาหาข่าว โดยมี พ.ต.ทวัลลภ สุขสมจิตร์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและปราบปราม 4 ป.ป.ท. ตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

จากการลงพื้นที่ก็ได้มีการสอบสวนพยานผู้เสียหายไปกว่า 10 ปาก และพยานหลักเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบางส่วน จากการสอบปากคำใกล้ได้ข้อสรุป อยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการไต่สวน เพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวน สภ.ฉลอง 2 นาย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์จากนักธุรกิจดำน้ำ โดยบางรายมีการทำถูกต้องตามกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการเสนอขอเป็นรายเดือนเพื่อไม่ให้มีการเข้าไปตรวจสอบบ่อยๆ เพียงแค่เดือนละไม่กี่พันบาท

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเรียกเจ้าหน้าที่ตรวจทั้ง 2 นาย มาสอบปากคำ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน ว่า มีการกระทำความผิด และใครเป็นผู้กระทำความผิด ก่อนจะเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหา จากนั้นก็จะมีการส่งสำนวนไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ท.ชี้มูลความผิด ในการชี้มูลมี 2 ส่วน คือ ทางวินัย จะแจ้งให้ทางต้นสังกัดทราบ เพื่อให้พักราชการ หรือไล่ออกไปก่อน ในส่วนของคดีอาญาจะต้องส่งให้อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องต่อไป ในส่วนของข้อกล่าวหาที่จะแจ้งดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ที่กระทำความผิดคือ ข้อหากรรโชกทรัพย์และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

เลขาธิการ ป.ป.ท.กล่าวอีกว่า นอกจากพื้นที่ สภ.ฉลอง แล้ว กรณีที่คล้ายกันยังมีกรณีที่ชาวออสเตเรีย ได้ก่อเหตุยิงชาวเยอรมัน พื้นที่ สภ.กะทู้ เจตนาจะไปยิงชาวเดนมาร์ก แต่คนยิงไปยิงผิดตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการจับกุมตัว แจ้งข้อหาพยามยามฆ่า แต่พอถึงเวลาก็สั่งไม่ฟ้องข้อหาพยามฆ่า ขณะนี้ทาง ป.ป.ท.มีการรวบรวมพยานหลักฐาน

เบื้องต้นมีพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีปัญหาในการทำสำนวนหลักฐาน ซึ่งเรื่องนี้ทางกงสุลออสเตรเลียเป็นผู้ร้อง ซึ่งคดีนี้อยู่ระหว่างไต่สวน มีการสอบปากคำ รวมทั้งไปตรวจสอบคลิปวิดีโอข่าวที่เคยนำเสนอในวันนั้นมาเปรียบเทียบกับเนื้อหาในสำนวน ซึ่งค่อนข้างที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เลยทำให้ผู้ต้องหาถูกปล่อยตัวไป ซึ่งลงโทษแค่ปรับเพียงแค่มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองเท่านั้น แต่ไม่ดำเนินคดีในข้อหาพยามฆ่าสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งพฤติกรรมของพนักงานสอบสวนได้รับการร้องเรียน ทาง ป.ป.ท.ก็เข้ามาตรวจสอบก็เป็นไปตามที่มีการร้องเรียน

สำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่นั้น อยากแสดงให้นักท่องเที่ยวทราบว่า ราชการ หรือหน่วยงานของรัฐบาลไม่ได้ปกป้อง หรือรู้เห็นเป็นใจในการนอกลู่นอกทางของเจ้าหน้าที่รัฐ และไม่ได้ให้ท้าย หรือปกป้อง หากมีการร้องเรียนในส่วนนี้พร้อมที่จะมาตรวจสอบ และดำเนินการอย่างจริงจัง โดยเฉพาะ 2 เคสนี้จะทำอย่างรวดเร็ว และตรงไปตรงมา เพราะไม่อยากให้การกระทำแบบนี้เกิดขึ้นอีก