xs
xsm
sm
md
lg

เร่งเสนอกรมที่ดินถอนเอกสารสิทธิรุกที่อุทยานฯ 20 แปลง มูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อุทยานแห่งชาติสิรินาถ เตรียมเสนอกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกโดยมิชอบในเขตอุทยาน 20 แปลง รวมเนื้อที่ 320 ไร่ มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ขณะที่อดีตอธิบดี พร้อมหัวหน้าอุทยานคนปัจจุบันถูกนายทุนฟ้องเรียกค่าเสียหาย 45 ล้านบาท วันนี้เข้าตรวจสอบอีก 4 จุด พร้อมเตรียมตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินในเขตจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ ร่วมกับ ป.ป.ท.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (16 มี.ค.) ที่ห้องประชุม ที่ทำการอุทยานแห่งชาติสิรินาถ นายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการสำนักอุทยานฯ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยาน ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบเอกสารสิทธิและปราบปรามการบุกรุก ยึดถือ ครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถร่วมชี้แจงความคืบหน้า

นายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการสำนักอุทยาน กล่าวภายหลังการประชุมว่า เบื้องต้นได้ลงมาติดตามความคืบหน้าซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการใน 5 เรื่อง คือ (1.) อุทยานแห่งชาติสิรินาถเตรียมเสนอให้กรมที่ดินมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ จำนวน 20 แปลง เนื้อที่รวม 320 ไร่ แบ่งเป็นเอกสารสิทธิที่ดินซึ่งไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (2537) จำนวน 16 ใบ และเอกสารสิทธิที่ดินไม่ปฏิบัติตามระเบียบของคณะกรรมการที่ดินฉบับที่ 12 (2532) อีก 4 ใบ โดยขณะนี้เตรียมนำเอกสารทั้งหมดส่งไปยังฝ่ายนิติกร ของกรมอุทยานเพื่อตรวจสอบความถูกต้องก่อนเสนอเพิกถอน ซึ่งในจำนวน 20 แปลง ที่มีการเสนอเพิกถอนพบว่า เป็นที่ดินของรายใหญ่ที่เคยถูกตรวจสอบอยู่หลายแปลง ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยแปลงโฉนดเลขที่ 38828, 38832, 38831, 38834, 38833, 38829, 38887, 9441, 9452, 6288, 47182, 8227, 8228, 8226, 6746, 6747 นอกจากนั้น ยังมีเอกสารสิทธิที่ดินที่ออกจาก ส.ค.1 เลขที่ 9, เลขที่ 14, เลขที่ 56 และเลขที่ 2 โดยทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ ม.2 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

เรื่องที่ 2 ที่ลงมาตรวจสอบในครั้งนี้ สืบเนื่องจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีการตรวจพบการบุกรุกยึดถือ ครอบครองใหม่อีก 4 จุด โดยพบว่ามีการนำเอกสาร ส.ค.1 มาออกซ้ำ และใช้ ส.ค.1 ที่มีการแก้ไขตัวเลข ไม่มีการรับรองจากเจ้าหน้าที่ที่ดิน และออกผิดตำแหน่ง เรื่องที่ 3.ลงมาติดตามการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ พบว่ามีออกเอกสารสิทธิในเขตอุทยาน มีอดีตหัวหน้าอุทยานเข้าไปเกี่ยวข้อง จำนวน 5 นาย ซึ่งบางคนเกษียณอายุราชการไปแล้ว และบางคนยังอยู่ โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ได้สั่งให้ตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงต่อผู้เกี่ยวข้องทั้ง 5 นายแล้ว และมอบหมายให้หัวหน้าอุทยานคนปัจจุบันแจ้งความดำเนินคดีต่ออดีตหัวหน้าอุทยานที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เรื่องที่ 4 เป็นการตรวจสอบคดีค้างเก่าที่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากนายดำรง พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าอุทยาน มูลค่า 45 ล้านบาท กรณีเข้าจับกุม และตรวจสอบเอกสารสิทธิบ้านนายเบอร์นาร์ด โคดิเยอร์ และ 5.เตรียมความพร้อมของการตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินในเขตจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ ระหว่างกรมอุทยานและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.

จากนั้น ผู้อำนวยการสำนักอุทยานฯ และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบเอกสารสิทธิในที่ดิน 4 จุด บริเวณหมู่ที่ 6 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ที่พบว่ามีการบุกรุก แผ้วถาง และใช้ประโยชน์ที่ดินเพิ่มในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยจุดแรกเป็น 1 ใน 20 แปลง ที่กำลังจะเสนอให้กรมที่ดินมีการเพิกถอน ตั้งอยู่บริเวณ รอยต่อ ม.6 ต.เชิงทะเล และ ต.สาคู พื้นที่ประมาณ 47 ไร่เศษ ซึ่งทั้งหมดอยู่บนภูเขา มีสภาพเป็นพื้นที่ป่า มีการตัดถนนขนาดความกว้าง 5 เมตร และ 8 เมตร มีการแผ้วถางป่า และไม้ขนาดเล็ก เหลือต้นไม้ใหญ่เพื่ออำพรางการตรวจสอบ ด้านล่างไปตามถนน หลายจุดพบมีการก่อสร้างอาคารต่างๆ จำนวนหลายหลัง เจ้าหน้าที่วัดค่าพิกัดด้วยเครื่องจีพีเอส พบอยู่ในเขตอุทยานฯ จึงได้สั่งให้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในเบื้องต้นคือ การก่อสร้างถนนทางเข้า-ออก ความยาวประมาณ 250 เมตร ป้อมยาม และประตูรั้ว ที่ไม่สามารถแสดงเอกสารสิทธิได้

จากนั้นได้เดินทางไปจุดที่ 2 อยู่ภายในซอยลายัน 6 ห่างจากทางเข้าไปประมาณ 200 เมตร เป็นของบริษัท เวิร์ล คอนสตรัคชั่น เนื้อที่จำนวน 4 ไร่เศษ พบมีการก่อสร้างอาคารที่พักชั่วคราว หรือลักษณะเป็นแคมป์คนงานก่อสร้าง จำนวนหลายหลังในเขตอุทยาน ผู้อำนวยการสำนักอุทยานฯ กล่าวว่า จากการตรวจสอบตาม ส.ค.1 ที่นำมาแสดงในเบื้องต้นพบไม่มีต้นขั้วอยู่ที่สำนักงานที่ดิน และเลขที่หมู่บ้านมีการแก้ไข รวมถึงมีการปักเสาไฟฟ้า ระบุที่ข้างเสาลงวันที่ 17/02/2557 เท่ากับว่าการไฟฟ้าเพิ่งมาดำเนินการปักเสาไฟฟ้าใหม่ ทั้งที่การไฟฟ้าทราบดีว่าบริเวณดังกล่าวมีคดีค้างเก่าที่คดียังไม่สิ้นสุด จึงต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเสนอให้มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิต่อไป

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีก 2 จุดคือ กรณีที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิของนายมิ่ง เอกราช และท่าเทียบเรือบ้านนายเบอร์นาร์ด โคดิเยอร์ เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติม เตรียมแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนในข้อหาบุกรุกฯ









กำลังโหลดความคิดเห็น