ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศาลมีคำพิพากษาแล้ว ดำเนินคดีต่อผู้บุกรุก 6 ราย จากทั้งหมด 19 ราย สร้างอาคารถาวรบนพื้นที่หน้าหาดในยาง เตรียมใช้ในยางโมเดลจัดระเบียบชายหาดแก้ปัญหาการบุกรุก มอบหมายระดับพื้นที่ทั้งอำเภอ และท้องถิ่นเจรจากับผู้บุกรุกก่อนในเบื้องต้น หากยังดื้อดึงดำเนินการฟ้องร้องทันที
นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาและการจัดระเบียบชายหาดของจังหวัดภูเก็ต ว่า จากการประชุมร่วมกับคณะทำงานจัดระเบียบชายหาดเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาความคืบหน้าการแก้ปัญหา และจัดระเบียบชายหาดต่างๆ ประกอบด้วย อ.เมืองภูเก็ต ได้แก่ หาดราไวย์ หาดในหาน และหาดกะรน, อ.ถลาง ได้แก่ หาดในยาง หาดในทอน หาดบางเทา หาดสุรินทร์ หาดลายัน และชายหาดหน้าโรงแรมเอาท์ริกเกอร์ และ อ.กะทู้ ได้แก่ หาดป่าตอง และหาดกมลา ซึ่งส่วนใหญ่จะมีกลุ่มอาชีพต่างๆ เข้าไปทำมาหากิน เช่น หมอนวด เตียงร่ม เจ็ตสกี หาบเร่แผงลอย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำชายหาด จนก่อให้เกิดความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม จากการรับฟังผลการดำเนินงานของคณะทำงานในแต่ละอำเภอก็มีความพอใจในระดับหนึ่ง ซึ่งยังต้องมีการดำเนินการต่อไป โดยได้สั่งการให้แต่ละชายหาดจัดทำฐานข้อมูลของกลุ่มอาชีพ และให้ไปตรวจสอบเรื่องของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ บนชายหาด และก่อนการใช้กฎหมายก็ให้เจรจาทำความเข้าใจเพื่อหาทางออกร่วมกัน เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ต้องการรังแกผู้ที่ประกอบอาชีพ แต่ก็ต้องมีกฎกติกา และระเบียบที่ต้องปฏิบัติด้วย แต่หากยังไม่ปฏิบัติตามก็ขอให้ว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะบางหาดมีคำพิพากษาออกมาแล้วว่า การสร้างสิ่งปลูกสร้างบนชายหาดมีความผิด เช่น หาดในยาง เป็นต้น
นายจำเริญ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับพื้นที่หาดในยาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาในการบุกรุกพื้นที่หน้าหาด สร้างอาคารลักษณะที่เป็นอาคารถาวร มีการดำเนินคดี ทั้งคดีอาญา และคดีทางปกครอง ขณะนี้ใน 19 ราย ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาแล้ว 6 ราย ซึ่งคำพิพากษามีทั้งปรับทั้งจำคุก ปรับแต่ไม่จำคุก ในกรณีที่รับสารภาพ และปรับ จำคุก แต่ให้รอลงอาญา ก็แบ่งออกเป็น 3 กรณี ดังกล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม ในรายที่มีการยื่นอุทธรณ์ ถึงแม้จะมีการอุทธรณ์ก็ต้องรอผลการอุทธรณ์ คิดว่าคำพิพากษาคงไม่แตกต่างจากศาลชั้นต้น เพราะว่าพื้นที่บุกรุกมันชัดเจนอยู่บนชายหาด ก็คงจะเป็นอย่างพื้นที่หาดอื่นๆ เราขอร้องว่าขอให้รื้อถอนออกมา ให้ฝ่ายนายอำเภอ ท้องถิ่น ท้องที่หาพื้นที่รองรับให้เท่าที่จะสามารถทำได้ให้เต็มที่ พี่น้องก็ทำมาหากินมานานแล้ว ไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำมาหากิน แต่เพียงต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ละเมิดกฎหมายซึ่งกันและกัน
ทางจังหวัดจะให้กรณีการฟ้องรองที่หาดในยาง จะเอาเป็นกรณีตัวอย่างให้แก่ผู้บุกรุกที่ยังแข็งขืนไม่ยอมที่จะปรับเปลี่ยน โดยเฉพาะใช้พื้นที่หน้าหาดสร้างอาคารในลักษณะเป็นอาคารถาวร ซึ่งทำให้เกิดการเสื่อมโทรมทางทรัพยากรธรรมชาติ และการใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกัน จริงๆ แล้วเราก็พยายามที่จะหาทางออกอย่างเหมาะสม วันนี้ได้คุยหารือกันแล้ว ขอให้ทางระดับพื้นที่ไปพูดคุยกัน ทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายท้องถิ่น ท้องที่ ตำรวจ และภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อที่จะจัดระเบียบพื้นที่ใหม่ ในการแสวงหาพื้นที่ใหม่ แม้แต่ในพื้นที่อุทยานเอง เราก็สามารถที่จะเอาพื้นที่อุทยานมาเป็นพื้นที่บริการให้เช่าได้ ก็เป็นการบ้านที่ทางอำเภอถลางจะต้องนำไปดำเนินการต่อ” นายจำเริญ กล่าวในที่สุด
