xs
xsm
sm
md
lg

สืบสวน ภ.8 จับผู้ต้องหามอญ-ไทย ยึดของกลางยาบ้ากว่า 10 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สุราษฎร์ธานี - สืบสวนภาค 8 รวบ 3 ผู้ต้องหามอญ-ไทย ค้ายาบ้าได้ของกลาง 5 หมื่นเม็ด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท พบสาวมอญพกพาสปอร์ตปลอม รับมีผู้จัดทำให้ในจังหวัดชุมพร ตำรวจเตรียมขยายผลจับ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (2 เม.ย.) ที่สำนักงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 นายพีระ กาญจนพงษ์ ผอ.ฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย ปป.ส.ภาค 8 สอบปากคำผู้ต้องหาคดียาบ้าอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด นำโดย พ.ต.ท.สถาพร พัฒนรักษ์ รอง ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.8 นำกำลังเข้าจับกุม MS.Thein Kyi Wa หรือชื่อภาษาไทยว่า นางฟ้า อายุ 35 ปี เมือง Ye หรือมะละแหม่ง ประเทศพม่า นายสมมุ่ง หรือพร หรือโม่ง ช่วยชูจิต อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.5 ต.แก้วแสน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช นายเดชา ช่วยชูจิต อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 245 ม.5 ต.แก้วแสน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช

พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 50,000 เม็ด โดยยาบ้าแพกเป็นแท่งปิดเทปกาวใส่ในกระสอบปุ๋ย สีขาว มีอักษรภาษาพม่าสีแดง จำนวน 1 ใบ และนำใบกระเจี๊ยบปิดทับบนยาบ้าเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ หนังสือเดินทาง (Passport) และสมุดบันทึกรายการจำหน่ายยาเสพติด 6 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง รถยนต์กระบะ 1 คัน ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ฆก 1072 กรุงเทพฯ 1 คัน

ทั้งนี้ การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดสืบทราบว่าจะมีการส่งมอบยาบ้าที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ศรีสุกใส บ้านควนลำพู ม.3 ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงวางแผนการจับกุม และจับกุมได้ของกลางดังกล่าว

โดยในส่วนของ MS.Thein Kyi Wa หรือนางฟ้า ผู้ต้องหาชาวพม่าให้การว่า รับยาบ้าจากประเทศพม่าเข้าทางด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี โดยซุกซ่อนในถุงปุ๋ย และใช้ใบกระเจี๊ยบปิดทับไว้เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ให้เข้าใจว่าเป็นผัก โดยนำมาส่งให้ลูกค้าตามที่นัดหมาย ซึ่งแต่ละครั้งได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท ส่วนหนังสือเดินทางปลอมทำที่ จ.ชุมพร จ่ายค่าทำ 13,000 บาท พร้อมบัตรต่างด้าว ซึ่งเข้าออกประเทศไทยได้ตลอดจนกระทั่งมาถูกจับกุมครั้งนี้ ส่วนผู้ต้องหาไทยอีก 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ทำหน้าที่รับส่งยาบ้าโดยได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท และเพิ่งทำเป็นครั้งแรก แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ พร้อมเตรียมขยายผลต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น