นิวยอร์กเดลี/เดอะสตาร์ - สมาชิกสภาระดับอาวุโสของอิหร่านเมื่อวันพฤหัสบดี (13) ชี้ว่าการหายสาบสูญของเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เป็นฝีมือลักพาของสหรัฐฯ เพื่อบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับจีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังผู้โดยสารเตหะรานถูกพาดพิงใช้พาสปอร์ตปลอมขึ้นเครื่อง แต่อีกด้านหนึ่งทางการเสือเหลืองก็ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่าเที่ยวบิน MH370 โดนก่อการร้ายจี้และผู้โดยสารถูกนำไปขังไว้ ณ สถานที่ลับแห่งหนึ่ง
ฮุสเซน นากาวี ฮุสเซนี โฆษกคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติและนโยบายต่างประเทศของรัฐสภาอิหร่าน แสดงปฏิกิริยานี้เพื่อตอบโต้กรณีที่ว่า 2 จากผู้โดยสารทั้งหมด 239 คนบนเครื่องบินเป็นชาวอิหร่านที่ใช้พาสปอร์ตปลอม จนนำมาซึ่งการคาดเดาต่างๆ นานา ว่า เที่ยวบินนี้อาจเกี่ยวข้องกับการโจมตีก่อการร้าย หรือจี้เครื่องบิน
โดย นายฮุสเซนี ชี้ว่ารายงานข่าวของสื่อตะวันตก คือแผนต่อต้านอิหร่านที่ริเริ่มโดยสหรัฐฯ “ข่าวสารที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชนตะวันตก เกี่ยวกับชาวอิหร่าน 2 คนขึ้นเครื่องโดยไม่มีพาสปอร์ตคือสงครามจิตวิทยา” เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทาสนิม “เป็นสหรัฐฯเองที่เกณฑ์คนมาปฏิบัติการลักษณะนี้ เพื่อพวกเขาจะได้กล่าวโทษประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะชาติมุสลิม”
เจ้าหน้าที่บอกว่าชาย 2 คนที่ใช้พาสปอร์ตปลอมขึ้นเครื่อง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย ขณะที่ทางกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือกับการสืบสวน
ความลึกลับของการหายไปอย่างกะทันหัน และโดยสิ้นเชิงของเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส (MAS) ทำให้แม้แต่เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยทางอากาศและหน่วยงานต่อต้านการก่อการร้ายของ ทั้งเอเชียและอเมริกาถึงขั้นไปไม่เป็น ขณะที่เจ้าหน้าที่ของมาเลเซียไม่สามารถชี้ชัดถึงตำแหน่งสุดท้ายของเครื่องบินที่สูญหายลำนี้
มีรายงานข่าวว่าเรดาร์ของกองทัพมาเลเซีย ตรวจพบเครื่องบินอยู่เหนือช่องแคบมะละกา หลังผ่านมาแล้วประมาณ 1 ชั่วโมงจากจุดสุดท้ายที่เรดาร์ของฝ่ายควบคุมการจราจรทางอากาศสามารถตรวจจับได้ว่าเครื่องบินอยู่นอกชายฝั่งเมืองโกตาบารู ซึ่งเป็นเมืองทางตะวันออกของมาเลเซีย ซึ่งจากจุดนี้ย่อมหมายความว่า เที่ยวบิน MH370 ได้มุ่งมาทางทิศตะวันตก และออกนอกเส้นทางบินตามปกติที่จะต้องผ่านทะเลจีนใต้
อย่างไรก็ตาม ต่อมาผู้บัญชาทหารอากาศรายนี้ออกมาปฏิเสธเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กระนั้นก็ดีเขาก็ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เครื่องบินลำนี้อาจเลี้ยวกลับกลางอากาศ
เมื่อวันพฤหัสบดี (13) เจ้าหน้าที่เวียดนามเผยได้ยุติปฏิบัติการค้นหาทางอากาศและลดระดับการค้นหาทางทะเลจนกว่ามาเลเซียจะให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่งของเครื่องบินที่ชัดเจนกว่านี้ “เราตัดสินใจระงับปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือบางส่วนชั่วคราว จนกว่าจะได้รับข้อมูลจากมาเลเซีย” นายฝ่าม กวี เตียว (Pham Quy Tieu) รมต.ช่วยกระทรวงคมนาคม บอกกับผู้สื่อข่าว
อีกด้านหนึ่งในวันเดียวกัน ทางการมาเลเซีย ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของสื่อมวลชนต่างประเทศ ที่ว่าเที่ยวบิน MH370 โดนก่อการร้ายจี้และผู้โดยสารถูกนำไปขังไว้ ณ สถานที่ลับแห่งหนึ่ง
นายฮิซฮามุดดิน ตัน ฮุซเซน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย ยืนยันว่ารายงานที่ไม่มีการตรวจสอบนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด “รายงานและข่าวลือที่ไม่ได้รับการยืนยันลักษณะนี้อาจก่อความวุ่นวายแก่ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือของเราได้ มันเป็นพฤติกรรมที่ไร้ความรับผิดชอบ ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวผู้โดยสารเช่นกัน” เขาแถลงกับผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสบดี (13)
หนังสือพิมพ์วอลล์สตีทเจอร์นัล เป็นหนึ่งในสื่อมวลชนที่เผยแพร่คำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่ต่อต้านก่อการร้ายของสหรัฐฯ ที่เชื่อว่ามีใครบางคนบนเครื่องเจตนาปิดอุปกรณ์แจ้งตำแหน่งเครื่องบินเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับจากเรดาร์
พร้อมกันนั้น นายฮิซฮามุดดิน ยังชี้แจงด้วยว่าเอกอัครราชทูตจีนประจำมาเลเซีย ยืนยันว่าภาพถ่ายดาวเทียมซึ่งเผยแพร่ในสื่อมวลชนที่อ้างพบซากเครื่องบินในทะเลจีนใต้ ไม่ได้รับอนุญาตจากทางการจีน และเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด โดยไม่ได้แสดงให้เห็นซากเครื่องบินแต่อย่างใด