เจอเต็มตา! นกนางนวลนอนดิ้นใกล้ตายบนชายหาดละแมที่มีคราบน้ำมัน

ชุมพร - เจ้าหน้าที่เจอเต็มตา “นกนางนวล” นอนดิ้นใกล้ตายบนชายหาดละแมที่มีคราบน้ำมัน ขณะกรมเชื้อเพลิง และดีเอสไอ ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานก้อนน้ำมันที่ จ.ชุมพร อ้างแค่มาเก็บตัวอย่างไปพิสูจน์ ต้องรอผลราว 1 เดือน ทำชาวบ้านเริ่มไม่พอใจปล่อยปัญหาเกิดซ้ำซาก

จากกรณีที่มีก้อนน้ำมันสีดำจำนวนมากถูกคลื่นซัดขึ้นชายหาดในพื้นที่ อ.ละแม อ.หลังสวน อ.ทุ่งตะโก และ อ.ละแม .ชุมพร และก้อนน้ำมันเมื่อเจอความร้อนได้แตกสลายกลายเป็นผงคาร์อนไดออกไซด์ จนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสัตว์น้ำตามชายหาด รวมถึงอาชีพประมงชายฝั่งตามข่าวที่เสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2557 น.ส.กาญจนา ลังกาพินธุ์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ภาค 8 หรือดีเอสไอ ร่วมกับ ผศ.ชลดรงค์ ทองสง รอง ผอ.ฝ่ายวิชาการและวิจัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร เจ้าหน้าที่ประมงอำเภอละแม ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ออกสำรวจตามริมชายหาด บริเวณพื้นที่หมู่ 11 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน และหมู่ที่ 1ต.ละแม อ.ละแม เป็นแนวยาวตามชายหาดกว่า 30 กม.เพื่อเก็บตัวอย่าง และหลักฐานก้อนน้ำมันดังกล่าว

โดยยังพบคราบน้ำมันจับตัวกันเป็นก้อนเล็กๆ ลอยระจายอยู่ตามผิวน้ำในทะเล และถูกคลื่นซัดเข้าหาฝั่งอย่างต่อเนื่อง แต่มีจำนวนลดน้อยลงกว่าช่วง 3 วันที่ผ่านมา และยังพบว่าตามชายหาดได้มีก้อนน้ำมันได้ถูกแสงแดดที่ร้อนจัดเผาจนละลายซึมลงสู่ใต้ดินจนเหลือคราบสีดำติดอยู่บนผิวทรายมองเห็นอย่างชัดเจนเป็นแนวยาวเกือบตลอดชายฝั่ง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจสอบ และเก็บคราบน้ำมันบริเวณชายหาดนั้น ได้พบนกนวลแกลบขาว เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำมันถูกคลื่นซัดนอนดิ้นกระพือปีกมีอาการผิดปกติอยู่บนชายหาด 1 ตัว เจ้าหน้าที่จึงจับนำมาตรวจสอบพบว่าที่บริเวณคอ ลำตัว ปีก และเท้ามีคราบน้ำมันสีดำติดเปรอะเปื้อนเป็นคราบอยู่ ทางคณะของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร ได้รีบนำนกไปทำความสะอาด และรักษาอาการในทันที เพื่อตรวจวิเคราะห์ว่าได้รับสารปนเปื้อนอันตรายหรือไม่

ผศ.ชลดรงค์ ทองสง รอง ผอ.ฝ่ายวิชาการและวิจัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร กล่าวว่า บริเวณชายหาดละแมที่พบคราบน้ำมันจำนวนมากนั้น ถือเป็นแหล่งธรรมชาติทางทะเลที่สมบูรณ์ที่ชาวประมงพื้นบ้านใช้ทำมาหากิน อีกทั้งยังเป็นแหล่งวางไข่ของนกหัวโตมลายู ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นในประเทศไทย และยังเป็นแหล่งหากินของนกนางนวลแกลบเท้าขาว นกประจำถิ่นและนกชนิดอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งจากการที่พบนกนางนวลแกลบขาวตัวดังกล่าวเปื้อนคราบน้ำมันนั้น ได้สร้างความกังวลใจให้แก่ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านที่มาร่วมตรวจคราบน้ำมันในครั้งนี้อย่างมาก จึงต้องขอวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันดำเนินการขจัดคราบน้ำมันโดยเร็วเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่

ด้าน น.ส.กาญจนา ลังกาพินธุ์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตนพร้อมคณะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคราบน้ำมันร่วมกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ภาค 8 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อเก็บตัวอย่างหลักฐานคราบสีดำที่หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นคราบนำมันดิบนั้น พร้อมทั้งหาพิกัดของผลกระทบในพื้นที่ เพื่อนำไปตรวจสอบเท่านั้น และไม่สามารถจะตอบได้ในขณะนี้ว่า เป็นน้ำมันชนิดใด หรือมาจากแหล่งขุดเจาะน้ำมันหรือไม่ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดว่าคงจะไม่เกิน 1 เดือน น่าจะได้ผลตรวจสอบที่ชัดเจน ส่วนการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้แนะนำให้ท้องถิ่น และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องใน จ.ชุมพร ควรร่วมมือกันเก็บคราบดังกล่าว และวิธีการกำจัดที่ดีที่สุดในขณะนี้คือ การฝังกลบ เนื่องจากทำได้ง่าย และใช้งบประมาณน้อยที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะตรวจสอบของคณะดังกล่าว ได้มีผู้นำชุมชน และชาวบ้านต่างแสดงความไม่พอใจส่งเสียงต่อว่าเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องที่ได้ทยอยกันลงมาตรวจสอบหลายชุดแล้ว แต่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน และยังโยนภาระจากผลกระทบที่กลุ่มผู้ประกอบการมักง่ายได้กระทำไว้ให้กับชุมชน และชาวบ้านต้องมารับผิดชอบ ในขณะที่การเกิดปัญหาจากคราบน้ำมัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เคยให้ข้อเท็จจริงแก่ชาวบ้าน หลังตรวจสอบเรื่องก็จะเงียบหายทุกครั้ง และปัญหาคราบน้ำมันก็เกิดซ้ำซากมาโดยตลอด