คราบน้ำมันลอยเกลื่อนริมหาดสิชล จ.นครศรีฯ คาดจากขุดน้ำมันกลางอ่าวไทย

นครศรีธรรมราช - พบก้อนน้ำมัน และคราบจำนวนมากถูกคลื่นซัดมาติดชายหาดสิชล จ.นครศรีฯ ยาวกว่า 4 กิโลเมตร ด้านนายอำเภอเร่งตรวจหาสาเหตุ ขณะเดียวกัน ยังพบ “โลมาหัวบาตรหลังเรียบ” ถูกคราบน้ำมันลอยตายริมชายหาด เบื้องต้นคาดว่ามาจากอุตสาหกรรมขุดเจาะปิโตรเลียมกลางอ่าวไทย

วันนี้ (18 มี.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายพิทักษ์ บริพิตร นายอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายท้องที่ เข้าตรวจสอบบริเวณชายหาดในตำบลเสาเภา และตำบลทุ่งปรัง หลังจากพบว่ามีก้อนน้ำมัน และคราบน้ำมันจำนวนมากลอยมาติดชายหาดเป็นทางยาวกว่า 4 กิโลเมตร ในแนวรอยต่อของ 2 ตำบล ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเข้ามาตรวจสอบ

ลักษณะทางกายภาพเบื้องต้นของคราบน้ำมันดังกล่าว พบว่ามีลักษณะเป็นก้อนหลายขนาด และเมื่อถูกแสงแดดเผาเป็นเวลานานจะเริ่มละลายซึมลงไปในหาดทราย อย่างไรก็ตาม นายอำเภอสิชลได้เก็บตัวอย่างคราบน้ำมันไว้ก่อนเพื่อที่จะรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับไปตรวจสอบว่าเป็นน้ำมันชนิดใด และมีต้นเหตุมาจากไหน

ขณะเดียวกัน ในบริเวณใกล้เคียงกันชาวบ้านได้พบซาก “โลมาหัวบาตรหลังเรียบ” เพศผู้ อายุประมาณ 4 เดือน น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม ถูกคลื่นซัดมาติดชายหาดพร้อมกับคราบน้ำมัน โดยสภาพมีบาดแผลตามลำตัว คาดว่าตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 3-4 วัน โดยได้แจ้งให้นายสันติ นิลวัฒน์ เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง จ.สงขลา มารับซากไปตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุการตาย ซึ่งพบว่าตัวนี้เป็นตัวที่ 4 แล้วในระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าลักษณะของก้อนน้ำมันที่พบนั้นมีลักษณะใกล้เคียงกับที่พบในชายหาดใน อ.สทิงพระ จ.สงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าอาจเป็นตะกอนน้ำมันในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมที่มีจำนวนมากในอ่าวไทย ซึ่งจะต้องรอการพิสูจน์อย่างชัดเจนอีกครั้ง