xs
xsm
sm
md
lg

“พล.ท.วลิต” แม่ทัพภาค 4 คนใหม่! ระวังไฟใต้หลอมละลายสปริงไม่เด้งสู่ 5 เสือ ทบ. / ไชยยงค์ มณีพิลึก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
คอลัมน์ : จุดคบไฟใต้
โดย...ไชยยงค์ มณีพิลึก
 
 
ในวันที่ 1 เมษายน 2557 กองทัพภาคที่ 4 จะมี “แม่ทัพภาค 4” คนใหม่ และจะมี “ผอ.กอ.นมน.ภาค 4” และ “ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” คนใหม่คือ พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพน้อยที่ 1 ซึ่งจะมาแทนที่ พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 คนปัจจุบันที่ไปกินตำแหน่ง “พล.อ.” ในกองทัพก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งถือว่าเป็น “บำเหน็จ ความชอบที่ได้เสียสละ และทุ่มเทกับการ “ดับไฟใต้มานาน
 
ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 และ ผ.อ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ถือเป็นตำแหน่งสำคัญที่สุดในการดับไฟใต้ เนื่องจากในทุกรัฐบาลที่ผ่านมา “ฝ่ายการเมือง ไม่มีนโยบายอะไรที่ชัดเจนในการที่จะดับไฟใต้
 
นับจากเกิดเหตุความรุนแรงระลอกใหม่ตั้งแต่เดือนมกราคม 2547 เป็นต้นมา ภารกิจของการดับไฟใต้จึงเป็นนโยบายของ “กองทัพบก” โดยมีแม่ทัพของกองทัพภาคที่ 4 เป็นผู้กำกับนโยบาย ซึ่งถือเป็น “เจ้าภาพหรือเป็น “พระเอกที่ 17 กระทรวง 66 หน่วยงานในพื้นที่ต้องทำตาม
 
การเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งต้องทำหน้าที่ ผ.อ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงมีส่วนสำคัญที่จะส่งผลต่อการดับไฟใต้ทั้งในด้าน ลบ และในด้าน “บวก
 
พล.ท.วลิตน่าจะเป็นแม่ทัพคนที่ 7 ในรอบ 10 ปีของการ “ปะทุ สถานการณ์ความไม่สงบละลอกใหม่ ณ แผ่นดินปลายด้ามขวาน ซึ่งแม้จะผ่านการพิสูจน์ฝีไม้ลายมือของนายทหารใหญ่ระดับแม่ทัพถึง 7 คน แต่ไฟใต้กลับยังคง “โชนแสงอย่างร้อนแรง และยังไม่มีทีท่าว่าจะ มอดดับ ได้
 
ในขณะที่แม่ทัพทุกคนยังไม่มีใครได้ “เหรียญตราขุนศึกผู้พิชิตเพราะส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในลักษณะของ “ขุนพลพ่ายศึกแต่ก็ได้รับการ “อวยยศเป็นพลเอก อย่างถ้วนหน้า
 
ที่บอกว่าการเปลี่ยนแม่ทัพภาคที่ 4 ทุกครั้งจะต้องมีผลกระทบทั้งทาง “ลบ” และทาง “บวก” กับสถานการณ์ความไม่สงบ รวมทั้งความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะแม้ว่าโดยข้อเท็จจริง อาจจะเป็นอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้ให้สัมภาษณ์ด้วยอารมณ์บู๊ๆ บ่อยครั้งว่า การแก้ปัญหาความไม่สงบที่ชายแดนใต้มีความชัดเจนในเรื่องของนโยบาย ของแผนงานที่ชัดเจนอยู่แล้ว และผู้ที่ย้ายมาเป็นแม่ทัพภาค 4 ทุกคนต่างมีความรู้ มีความสามารถ ไม่ได้มาเพราะการเปิดประตูรถ หรือขัดรองเท้า และ พล.ท.วลิตเป็นผู้ที่มีความพร้อม ความรู้ ความสามารถ เหมาะสมกับการเป็นแม่ทัพภาคที่ 4
 
แม้ว่าโดยหลักการจะเป็นเช่นนั้น แต่โดยข้อเท็จจริงอาจจะไม่เป็นไปตามหลักการก็ได้ เพราะในฐานะของคนในพื้นที่พบว่า การแก้ปัญหาความไม่สงบในชายแดนใต้ที่ผ่านมา แม่ทัพภาค 4 แต่ละคนต่างมีลักษณะการทำหน้าที่ และมีแนวทางที่เป็นของตนเอง เพื่อที่จะนำมาผสานกับหลักการและนโยบายของกองทัพ
 
แม่ทัพบางคนเก่งด้านมวลชนก็จะเน้นงานมวลชนเป็นหลัก แม่ทัพบางคนเก่งด้านยุทธการก็เป็นเกมรุกรบเป็นหลัก บางคนเก่งเรื่องการข่าวก็ใช้งานการข่าวเป็นหลัก ดังนั้น ถ้ามีการสำรวจความพึงพอใจในตัวของแม่ทัพภาค 4 แต่ละคนจากประชาชนทุกคนจะได้คะแนนไม่เท่ากัน
 
สำหรับ พล.ท.วลิต ตั้งแต่วันที่มีชื่อในโผของการโยกย้ายกลางปีว่าจะมาเป็นแม่ทัพภาค 4 ก็เริ่มกลายเป็นสินค้าที่มี “ตำหนิเพราะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทำนองที่ว่า เป็นการ “ตกรางวัล” ให้เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 เนื่องจากเคยอกหักจากการโยกย้ายเมื่อเดือนกันยายน 2556 ที่ไม่ได้เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เพราะคน “เสื้อแดง
 
จึงต้องให้มาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อที่จะเตรียมย้ายไปขึ้นสู่ไลน์ “5 เสือ ทบ.”
 
แถมมีการเขียนข่าวในเชิงลึกจากสื่อหลายแห่งว่า พล.ท.วลิต อาจจะมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ในระยะสั้นๆ เท่านั้น
 
ข่าวที่ปรากฏในสื่อจะเป็นข่าว “เท็จหรือ “จริงไม่มีใครชี้ชัด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การวิพากษ์ผู้ที่จะมาเป็น “พระเอกหรือเป็น “เจ้าภาพในการดับไฟใต้ในด้านที่ “ไม่เป็นบวกย่อมส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ และการแก้ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างแน่นอนไม่มากก็น้อย
 
วันนี้ “แกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวในพื้นที่ได้นำเอาข่าวนี้ไปใช้ปลุกระดม และโฆษณาชวนเชื่อในหมู่ประชาชน เพื่อที่จะได้ทำลายความน่าเชื่อถือของกองทัพ ทำให้คนเห็นและเชื่อว่ารัฐบาลไม่มีความจริงใจ และไม่ใส่ใจกับปัญหาไฟใต้ที่เกิดขึ้น เพราะมีการโยกย้ายภายในกองทัพเพียงเพื่อการ “จัดขบวนเพื่อให้ตำแหน่งในกองทัพลงตัว มากกว่าที่จะมองถึง “หายนะของประชาชนในชายแดนใต้
 
ดังนั้น พล.ท.วลิต ที่กำลังจะมานั่งแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่จึง “เหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ได้รับตำแหน่ง หรือยังไม่ได้ลงสนาม เพราะกลายเป็น “เป้า ในการโฆษณาชวนเชื่อของ “ขบวนการ” ไปก่อนแล้ว
 
ยิ่งหลังจากรับตำแหน่งใหม่ พล.ท.วลิตยิ่งจะต้องทำงานให้หนักขึ้นไปอีก เพื่อที่จะแสดงความรู้ความสามารถให้ประชาชนได้เห็น โดยเฉพาะที่สำคัญมี “โจทย์ที่รอให้แก้ไขอยู่มากพอสมควร ซึ่ง 2 ในนั้นก็คือ
 
ประการแรกการที่ “คนไทยพุทธกลายเป็นเหยื่อสถานการณ์ มีการถูกฆ่าถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมทุกวัน โดยเฉพาะการ ฆ่าแล้วเผานับแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นมา มีเกิดขึ้นแล้วถึง 4 ศพ และ 3 ศพเป็นสตรี และศพสุดท้ายเป็น “แม่พิมพ์”
 
ประการที่สอง การที่เจ้าหน้าที่ทั้งที่เป็นข้าราชการอย่างนาวิกโยธิน และที่เป็นอาสาสมัครอย่างอาสาสมัครทหารพราน อาสาสมัครรักษาดินแดน ได้กลายเป็นผู้ต้องหาถึง 6 คนภายในเดือนมีนาคมนี้ในข้อหา “ฆ่าผู้บริสุทธิ์เพื่อแก้แค้นส่วนตัว” และ “รับจ้างฆ่า” เพื่อหวังเงินค่าจ้าง ซึ่งเป็น 2 คดีที่ถูกจับได้ แต่เชื่อว่าที่ผ่านมามีอีกหลายคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำ แต่สืบสวนสอบสวนไม่ถึงคนร้าย
 
โจทย์ทั้ง 2 ข้อคือเรื่อง “เร่งด่วนที่แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่จะต้อง “รับไม้ จากแม่ทัพคนเก่า และต้องหาทางแก้ไขให้ได้ โดยเฉพาะในประเด็นทำอย่างไรที่จะคุ้มครองคนไทยพุทธที่กลายเป็นคน “ส่วนน้อยในพื้นที่ให้อยู่รอดและปลอดภัยจากการตกเป็นเหยื่อของขบวนการ
 
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่น่ากังวลมากคือ ในวันนี้ “เด็ก” และ “สตรี” ได้กลายเป็นเหยื่อของความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการนำพาสถานการณ์ของชายแดนใต้ไปสู่ “สากลเร็วขึ้น
 
ดังนี้แล้วจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งที่เป็นข้าราชการ และที่เป็นอาสาสมัครหยุดการ “รับงานและทำอย่างไรที่ไม่ให้การเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐของทหารพราน หรือของอาสารักษาดินแดน เป็นไปเพื่อที่จะได้นำเอาอาวุธ เครื่องแบบและตำแหน่งหน้าที่ไปใช้ “แก้แค้น ศัตรูเป็นการส่วนตัว
 
เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนมาก เพราะในห้วง 2 เดือนที่ผ่านมาทั้ง 2 เรื่องนี้ได้เกิดผลกระทบอย่างกว้างขวาง และสะเทือนถึงขั้นสร้างความ “ไม่เชื่อมั่น” ต่อเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะต่อ “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” นั่นเอง
 
ในห้วงเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ หน่วยข่าวในพื้นที่ต่างมีข้อมูลที่ระบุว่า ขบวนการมีแผนที่จะก่อเหตุร้ายด้วยความรุนแรงครั้งใหญ่เพื่อโหมกระแส
 
ทั้งหมดนี้คือ “โจทย์หินที่รอให้ “พล.ท.วลิต โรจนภักดี” ว่าที่ “แม่ทัพภาคที่ 4” และ “ผ.อ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” คนใหม่ได้แสดงความรู้ความสามารถในฐานะของ “ทองแท้อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เป็นผู้การันตีเอาไว้
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น