ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผอ.ททท.กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ยืนยัน ภูเก็ตยังเนื้อหอมสำหรับนักท่องเที่ยวอังกฤษ ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวอังกฤษเข้าประเทศไทยลดลงมากนัก
นายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายกฤษดา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ นายประดิษฐ์ แสงจันทร์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เข้าพบ นายธีระศิลป์ เทเพนทร์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรับฟังปัญหาเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่มีต่อภาพลักษณ์จังหวัดภูเก็ต ณ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำกรุงลอนดอน ในโอกาสที่คณะผู้บริหาร อบจ.ภูเก็ต และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ตัวแทนสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ได้เดินทางมาร่วมงาน ITB ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 17 ก.พ.-8 มี.ค.57
โดยนายภูริต ได้นำเสนอปัญหาที่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษมีการร้องเรียนเข้ามายังสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต และจังหวัดภูเก็ต อย่างต่อเนื่องต่อ ผอ.ททท.สำนักงานกรุงลอนดอน คือ การเอารัดเอาเปรียบเกี่ยวกับค่าโดยสารรถสาธารณะตามแหล่งท่องเที่ยว เช่น รถแท็กซี่ รถสี่ล้อเล็ก จนเป็นมูลเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่มีการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่งผลให้พฤติกรรมดังกล่าวลดน้อยลงตามลำดับ แต่ขณะเดียวกัน กลับพบปัญหารถตู้ป้ายดำก่อเหตุต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก
ดังนั้น ทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต จึงต้องการทราบผลกระทบที่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษมีต่อภาพลักษณ์ หรือปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวยัง จ.ภูเก็ต ผ่านทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงลอนดอน แม้ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อนำข้อคิดเห็น และปัญหากลับไปเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปรับปรุงต่อไป
ด้านนายธีระศิลป์ เทเพนทร์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการรายงานตรงต่อสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา โดยระยะหลังทาง ททท.ไม่ได้รับทราบปัญหาต่างๆ แต่ทาง ททท.พยายามที่จะเข้าไปรับทราบปัญหาจากนักท่องเที่ยวโดยตรง เนื่องจากถือว่าการทำตลาดท่องเที่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ของประเทศนั้นถือว่าเป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งถ้าปัญหาดังกล่าว เช่น การเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ปัญหาค่าโดยสารรถสาธารณะ ฯลฯ ยังคงอยู่จะส่งผลให้การทำตลาดเดินต่อไปลำบาก หรือประสบปัญหาเช่นเดียวกัน โดยทาง ททท.แต่ละสำนักงานที่ประจำอยู่ในต่างประเทศถือว่าเป็นทัพหน้าที่จะต้องออกไปชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นเช่นกัน
“ปัจจุบัน จ.ภูเก็ต ได้รับการแก้ไขปัญหาต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก เช่น มีการตั้งศูนย์ดำรงธรรมขึ้นที่ศาลากลางจังหวัด และสิ่งสำคัญถือว่าเป็นศูนย์แรกของประเทศที่จัดตั้งโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ โดยเป็นนโยบายของรัฐบาล คือ ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยว (ศปอท.) ซึ่งได้มีการสนธิกำลังหลายหน่วยงาน นับว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเร่งด่วนขึ้น และเข้าไปตรงจุดมากขึ้น เช่น ปัญหาแท็กซี่ ศปอท.จะเข้าไปดำเนินการแก้ไขทันทีเมื่อมีการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเมื่อปัญหาแท็กซี่หายไป หน่วยงานดังกล่าวจะต้องไปแก้ไขปัญหาเรื่องรถตู้ป้ายดำต่อ”
ผอ.ททท.กรุงลอนดอน กล่าวเพิ่มเติมถึงการทำตลาดท่องเที่ยวในสหราชอาณาจักร ว่า การทำตลาดในภาพรวมยังคงไม่หนักใจ โดยตนเองมีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่อังกฤษ-ไอร์แลนด์ และ เซาท์แอฟริกา ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไอร์แลนด์ คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าขณะนี้ภายในประเทศมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ แต่เมื่อเช็กข้อมูลกับบริษัทท่องเที่ยวรายใหญ่ๆ ของไอร์แลนด์กลับยังไม่ส่งผลกระทบต่อการทำตลาดท่องเที่ยว การเดินทางของคนไอร์แลนด์ยังคงมีอยู่ตลอด ซึ่งทำให้ภาคเอกชนคงต้องนำกลับไปพิจารณาในการทำตลาดในประเทศไอร์แลนด์
โดยทาง ททท.มีการประเมินผลกระทบต่อวิกฤตการเมืองที่ประเทศไทยกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวอังกฤษลดลงประมาณ 20% โดยมีการติดตามจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยนักท่องเที่ยวเอเชียลดมากที่สุด ขณะที่นักท่องเที่ยวโซนยุโรป กลับไม่ได้รับผลกระทบต่อวิกฤตการเมืองไทย ยกเว้นกลุ่มสแกนดินีเวีย ซึ่งไม่ใช่ปัญหาเรื่องการเมืองในบ้านเรา แต่เป็นปัญหาเรื่องจำนวนชาร์เตอร์ไฟลต์ที่บินมายังประเทศไทย
ทั้งนี้ ตลาดการท่องเที่ยวของชาวอังกฤษที่เดินทางไปท่องเที่ยวยัง จ.ภูเก็ต ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 5% และถ้ามองในภาพรวมตลาดอังกฤษถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศไทย-ภูเก็ต ยกเว้นประเทศรัสเซีย ที่เข้าไปทำตลาดท่องเที่ยวในบ้านเรามากอยู่แล้ว ซึ่งถือว่าตลาดท่องเที่ยวอังกฤษที่เดินทางไปยัง จ.ภูเก็ต ยังคงดีอย่างต่อเนื่อง