นราธิวาส - “นัจมุดดีน อูมา” ประธานมูลนิธิเสริมสร้างความยุติธรรมจังหวัดนราธิวาส เผยครบรอบ 1 ปี เจรจาสันติภาพเหตุการณ์ความรุนแรงลดลง ประชาชนกว่าร้อยละ 80 เห็นด้วย หวั่น “ถวิล เปลี่ยนศรี” กลับรับตำแหน่งไม่สานต่อแนวทางการเจรจาสันติภาพ เนื่องจากเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับรัฐบาล แนะให้เห็นแก่ประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
วันนี้ (12 มี.ค.) นายนัจมุดดีน อูมา ในฐานะประธานมูลนิธิเสริมสร้างความยุติธรรม จ.นราธิวาส ได้เปิดเผยหลังจากเสร็จสิ้นจากการพบปะผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านที่ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความเป็นอยู่ และความเดือดร้อนเป็นประจำทุกเดือน เพื่อทางมูลนิธิได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาความเดือดร้อนในเบื้องต้นว่า ในโอกาสครบรอบ 1 ปี ของการพูดคุยขบวนการสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับกลุ่ม BRN ซึ่งเป็นผู้เห็นต่าง ชี้ให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 84% เห็นด้วย และดาโต๊ะสรีฮาหมัดซัมซามิง ฮาซัม ผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยเพื่อสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นด้วยที่รัฐบาลไทยมีความตั้งใจจริงที่จะแก้ปัญหานี้ และนายฮันซัน ตอยิบ ตัวแทนกลุ่มขบวนการ BRN ก็พอใจต่อการเจรจา 3 ครั้งในห้วงที่ผ่านมา
นายนัจมุดดีน อูมา ประธานมูลนิธิเสริมสร้างความยุติธรรม จ.นราธิวาส กล่าวอีกด้วยว่า แต่มาวันนี้ประชาชนได้ตั้งคำถามว่าเมื่อไหร่จะเริ่มพูดคุยครั้งที่ 4 และ 5 เพียงแค่รัฐบาลยุบสภาด้าน สมช.ก็ไม่สามารถเดินต่อไปได้ต้องรอรัฐบาลตัวจริง ที่น่ากลัวคือ หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้คืนตำแหน่งให้แก่ นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กลับมาเป็นเลขาธิการ สมช.ภายใน 45 วัน ซึ่งผมเคยพูดคุยกับ นายถวิล ท่านก็ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อมาเป็นเลขาธิการ สมช.ก็ต้องสานต่อเพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล แต่ถ้านายถวิล ไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องส่วนตัว แต่โดยระบอบท่านต้องเดินตามนโยบายของรัฐบาล เว้นแต่มาเลเซียไม่เอากับคุณถวิลแล้ว หรือผู้เห็นต่างบอกว่าฉันไม่พูดคุยแล้ว
ต่อข้อถามนิสัย และพฤติกรรมนายถวิล ที่จะมาทำหน้าที่เป็นเลขาธิการ สมช. ไม่กินเส้นรัฐบาลและเคยขึ้นเวที กปปส.และยังชอบติติงการเจรจาสันติภาพฯ คณะทำงานที่มี พล.ท.ภราดร นั้นนายนัจมุดดีน อูมา กล่าวว่า ตนอยากขอร้องไปยังนายถวิล ให้ยึดหลักแนวทางเดิม อย่าไปสวนทางความต้องการของคนในพื้นที่ เพราะมันเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของประชาชน 10 ปีที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบคนตายกว่า 6,000 คน บาดเจ็บจำนวนมาก แต่การเจรจาสันติภาพที่ผ่านมา ผลสำรวจในเดือนรอมฎอน เดือนศีลอดชาวมุสลิมที่ผ่านมา เหตุการณ์ความไม่สงบลดลงเกินครึ่ง แสดงถึงการเจรจากับผู้เห็นต่าง หรือ BRN ที่ผ่านมาที่ได้ผลในระดับหนึ่ง
ซึ่งการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยอาวุธไม่จบ มีแต่จะสร้างปัญหาหา และความยืดเยื้อ ซึ่งเมื่อไรที่นายถวิล มาเป็นเลขาธิการ สมช. ถ้านายถวิล ปฏิเสธแนวทางนี้ก็ยิ่งเป็นห่วงใหญ่ ก็เลยขอวิงวอนเพื่อเห็นแก่สันติภาพ เห็นแก่ชีวิตมนุษย์ การเจรจาพูดคุยเพื่อสันติภาพก็ดำเนินไปด้วยดี อย่างเช่นการพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุชัดเจนกว่าเดิมมาก ผมได้ฟังจาก พล.ต.ต.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จ.ยะลา บอกว่า ปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุในรอบ 10 ปี มี 6,000 กระบอก แต่ปืนที่ใช้ยิงซ้ำไปซ้ำมามีไม่ถึง 1,000 กระบอก ยิงครั้งเดียวจบมันคืออะไร
นอกจากนี้ นายนัจมุดดีน อูมา ประธานมูลนิธิเสริมสร้างความยุติธรรม จ.นราธิวาส กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า นับจากนี้ไปจะไม่มีชื่อ BRN ในการพูดคุยเพื่อสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว แต่ทางการมาเลเซียแจ้งว่าจะใช้ชื่อ กลุ่มแนวร่วมประชาชนมาลายูปัตตานี ซึ่งจะประกอบด้วย กลุ่ม BRN กลุ่มพูโล กลุ่ม BLPP กลุ่มสตรี กลุ่มภาคประชาชน กลุ่มสื่อมวลชน และกลุ่มนักปราชญ์ในพื้นที่ เป็นเวทีการเจรจาพูดคุยเพื่อสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้กับชาวมลายูปัตตานีเท่านั้น