ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจอตัวแล้ว 1 ใน 2 คน ที่มีชื่อเดินทางไปกับสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส พบชาวอิตาลีเดินทางมาพักผ่อนที่จังหวัดภูเก็ต ยืนยันแจ้งความพาสปอร์ตหายไปเมื่อปีที่ผ่านมาขณะมาเที่ยวที่ภูเก็ต
จากกรณีที่มีเจ้าของพาสปอร์ต จำนวน 2 ราย คือ นาย Christan Kozel อายุ 30 ปี ชาวออสเตรีย กับนาย Luigi Maraldi อายุ 37 ปี ชาวอิตาลี ออกมาระบุว่า ไม่ได้เดินทางไปกับเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH 370 ซึ่งสูญหายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา และยังมีชีวิตอยู่ แต่อาจมีผู้นำพาสปอร์ตของเขาไปใช้ เนื่องจากพาสปอร์ตสูญหายในช่วงที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย และได้มีการแจ้งความหายไว้ด้วย และมีรายงานข่าวแจ้งว่าในส่วนของนาย Luigi Maraldi เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องดังกล่าวได้ประสานความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ คือ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กะทู้ ผู้กำกับการตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลกรณีที่มีผู้กล่าวอ้างว่า มีการแจ้งความพาสปอร์ตหายไว้ที่ จ.ภูเก็ต แต่ปรากฏว่ามีการนำไปใช้ขึ้นเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH 370 ซึ่งสูญหายไปนั้น
จากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นพบว่า ในกรณีของนาย Luigi Maraldi อายุ 37 ปี ชาวอิตาลี นั้น พบว่ามีการแจ้งความหนังสือเดินทางหายไว้หายไว้ที่ สภ.กะทู้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2556 แต่พาสปอร์ตหายเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2556 ขณะที่รายของ นายคริสเตียน โคเซล อายุ 30 ปี ชาวออสเตรีย มีการแจ้งหายที่ภูเก็ต แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าแจ้งที่พื้นที่ไหน และจากการตรวจสอบข้อมูลกับทางด่านตรวจคนเข้าเมือง พบว่า ในส่วนของนาย Luigi Maraldi นั้นเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 มี.ค.57 และเข้าพักที่จังหวัดภูเก็ต
หลังจากได้ข้อมูล ผู้บัญชาการตำรวจภุธรภาค 8 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกตรวจสอบ จนกระทั่งเมื่อเวลา 15.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถติดตามตัวนาย Luigi Maraldi พบขณะพักอยู่ที่ภุรีนัฐเกสต์เฮาส์ ถนนนาใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงได้เชิญตัวมาสอบถามข้อมูล ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลทราบว่า นาย Luigi Maraldi ได้แจ้งความพาสปอร์ตหายไว้จริงในคราวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งในครั้งนั้นได้เอาพาสปอร์ตไปเช่ารถจักรยานยนต์ เมื่อนำรถมาคืนทางพนักงานแจ้งว่ามีคนมารับพาสปอร์ตไปก่อนแล้ว จึงได้ไปแจ้งความไว้ หลังจากนั้นได้เดินทางกลับประเทศ โดยใช้พาสปอร์ตชั่วคราว และเดินทางกลับมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตอีกครั้ง เนื่องจากชอบเมืองไทย โดยเข้ามาเมื่อวันที่ 1 มี.ค.และเข้าพักที่ป่าตอง
และระหว่างที่พักอยู่ในภูเก็ต ได้รับแจ้งจากครอบครัว และญาติว่า มีชื่อเป็นผู้เดินทางอยู่ในสายการบินที่สูญหาย ก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่ได้เดินทางไปกับสายการบินดังกล่าว และยืนยันต่อทางครอบครัวไปแล้วว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ และพร้อมจะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติมกรณีพาสปอร์ตหาย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนาย Luigi Maraldi จะเดินทางกลับประเทศในวันที่ 15 มี.ค. นี้ พร้อมกับยืนยันว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยเดินทางยังประเทศมาเลเซียเลย
พล.ต.ท.ปัญญา ยังได้กล่าวต่อภายหลังสอบถามข้อมูลจากนาย Luigi Maraldi ว่า สำหรับเรื่องของพาสปอร์ตสูญหายนั้น ตนได้สั่งการให้ตั้งทีมสอบสวนขึ้นมาทำงาน 1 ชุด เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าเป็นการขโมย และนำออกจากประเทศ ซึ่งความจริงพาสปอร์ตที่มีการแจ้งหายแล้ว ไม่สามารถที่จะนำมาใช้ในประเทศไทยได้อีก ส่วนที่ประเทศอื่นนั้นไม่แน่ใจว่าสามารถนำไปใช้ได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาการแจ้งความเรื่องของพาสปอร์ตหายในพื้นที่ จ.ภูเก็ต นั้น ก็มีบ้างแต่ไม่มาก เคยมีรายใหญ่เหตุเกิดในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต เมื่อปีที่ผ่านมาของกลุ่มสแกนดิเนเวีย ซึ่งถูกโจรกรรม หลังจากนั้นก็มีการแจ้งความหายปกติ โดยในอดีตเคยมีการตรวจพบการซื้อขายพาสปอร์ตของชาวฝรั่งเศสกับสเปน เพื่อใช้เดินทางเข้าไปในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ปัจจุบันพฤติกรรมดังกล่าวไม่มีการตรวจสอบแล้ว เนื่องจากความเข้มงวดของทางเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ
จากกรณีที่มีเจ้าของพาสปอร์ต จำนวน 2 ราย คือ นาย Christan Kozel อายุ 30 ปี ชาวออสเตรีย กับนาย Luigi Maraldi อายุ 37 ปี ชาวอิตาลี ออกมาระบุว่า ไม่ได้เดินทางไปกับเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH 370 ซึ่งสูญหายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา และยังมีชีวิตอยู่ แต่อาจมีผู้นำพาสปอร์ตของเขาไปใช้ เนื่องจากพาสปอร์ตสูญหายในช่วงที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย และได้มีการแจ้งความหายไว้ด้วย และมีรายงานข่าวแจ้งว่าในส่วนของนาย Luigi Maraldi เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องดังกล่าวได้ประสานความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ คือ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กะทู้ ผู้กำกับการตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลกรณีที่มีผู้กล่าวอ้างว่า มีการแจ้งความพาสปอร์ตหายไว้ที่ จ.ภูเก็ต แต่ปรากฏว่ามีการนำไปใช้ขึ้นเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH 370 ซึ่งสูญหายไปนั้น
จากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นพบว่า ในกรณีของนาย Luigi Maraldi อายุ 37 ปี ชาวอิตาลี นั้น พบว่ามีการแจ้งความหนังสือเดินทางหายไว้หายไว้ที่ สภ.กะทู้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2556 แต่พาสปอร์ตหายเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2556 ขณะที่รายของ นายคริสเตียน โคเซล อายุ 30 ปี ชาวออสเตรีย มีการแจ้งหายที่ภูเก็ต แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าแจ้งที่พื้นที่ไหน และจากการตรวจสอบข้อมูลกับทางด่านตรวจคนเข้าเมือง พบว่า ในส่วนของนาย Luigi Maraldi นั้นเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 มี.ค.57 และเข้าพักที่จังหวัดภูเก็ต
หลังจากได้ข้อมูล ผู้บัญชาการตำรวจภุธรภาค 8 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกตรวจสอบ จนกระทั่งเมื่อเวลา 15.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถติดตามตัวนาย Luigi Maraldi พบขณะพักอยู่ที่ภุรีนัฐเกสต์เฮาส์ ถนนนาใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงได้เชิญตัวมาสอบถามข้อมูล ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลทราบว่า นาย Luigi Maraldi ได้แจ้งความพาสปอร์ตหายไว้จริงในคราวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งในครั้งนั้นได้เอาพาสปอร์ตไปเช่ารถจักรยานยนต์ เมื่อนำรถมาคืนทางพนักงานแจ้งว่ามีคนมารับพาสปอร์ตไปก่อนแล้ว จึงได้ไปแจ้งความไว้ หลังจากนั้นได้เดินทางกลับประเทศ โดยใช้พาสปอร์ตชั่วคราว และเดินทางกลับมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตอีกครั้ง เนื่องจากชอบเมืองไทย โดยเข้ามาเมื่อวันที่ 1 มี.ค.และเข้าพักที่ป่าตอง
และระหว่างที่พักอยู่ในภูเก็ต ได้รับแจ้งจากครอบครัว และญาติว่า มีชื่อเป็นผู้เดินทางอยู่ในสายการบินที่สูญหาย ก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่ได้เดินทางไปกับสายการบินดังกล่าว และยืนยันต่อทางครอบครัวไปแล้วว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ และพร้อมจะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติมกรณีพาสปอร์ตหาย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนาย Luigi Maraldi จะเดินทางกลับประเทศในวันที่ 15 มี.ค. นี้ พร้อมกับยืนยันว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยเดินทางยังประเทศมาเลเซียเลย
พล.ต.ท.ปัญญา ยังได้กล่าวต่อภายหลังสอบถามข้อมูลจากนาย Luigi Maraldi ว่า สำหรับเรื่องของพาสปอร์ตสูญหายนั้น ตนได้สั่งการให้ตั้งทีมสอบสวนขึ้นมาทำงาน 1 ชุด เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าเป็นการขโมย และนำออกจากประเทศ ซึ่งความจริงพาสปอร์ตที่มีการแจ้งหายแล้ว ไม่สามารถที่จะนำมาใช้ในประเทศไทยได้อีก ส่วนที่ประเทศอื่นนั้นไม่แน่ใจว่าสามารถนำไปใช้ได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาการแจ้งความเรื่องของพาสปอร์ตหายในพื้นที่ จ.ภูเก็ต นั้น ก็มีบ้างแต่ไม่มาก เคยมีรายใหญ่เหตุเกิดในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต เมื่อปีที่ผ่านมาของกลุ่มสแกนดิเนเวีย ซึ่งถูกโจรกรรม หลังจากนั้นก็มีการแจ้งความหายปกติ โดยในอดีตเคยมีการตรวจพบการซื้อขายพาสปอร์ตของชาวฝรั่งเศสกับสเปน เพื่อใช้เดินทางเข้าไปในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ปัจจุบันพฤติกรรมดังกล่าวไม่มีการตรวจสอบแล้ว เนื่องจากความเข้มงวดของทางเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ