ยะลา - นางปวีณา หงสกุล รักษาการ รมว.การพัฒนาสังคมฯ ประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ปัญหา “โรฮิงญา” ขอให้สหประชาชาติ หรือ UNHCR เข้ามาร่วมช่วยเหลือ หลังจากมีหญิงชาวโรฮิงญา วัย 16 ปี ถูกชายชนชาติเดียวกันข่มขื่น ก่อนหายตัวไปหลังเข้าพักบ้านเด็กที่สงขลา
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี นางปวีณา หงสกุล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาร่วมประชุมการให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เสียชีวิต หรือถูกต้องขังในเรือนจำ และการขอรับการสนับสนุนด้านความมั่นคงจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ของ กอ.รมน.ภาค 4 สน.และหารือแนวทางการให้ความช่วยเหลือโรฮิงญา โดยมี พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 กองบังคับการปรายปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ศอ.บต. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุม กอ.รมน.ภาค 4 สน.ได้สรุปการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อเหตุความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต.บรรยายสรุปผลการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ
นางปวีณา หงสกุล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมว่า ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้หน่วยงานราชการทำงานเชิงบูรณาการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ และครอบครัวของเจ้าหน้าที่ ข้าราชการที่ได้รับผลกระทบที่ไปปฏิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าวของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สรุปผลการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สรุปผลการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติงานของตำรวจภูธรภาค 9 และภารกิจความร่วมมือของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ พร้อมทั้งสรุปการแก้ไขปัญหาให้การช่วยเหลือชาวโรฮิงญา ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สตช. และ ศอ.บต.
“เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีตัวแทนชาวโรฮิงญามาขอความช่วยเหลือว่ามีหญิงชาวโรฮิงญา อายุ 16 ปี ถูกชายชาวโรฮิงญาข่มขืน จึงได้ประสานขอความร่วมมือไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสงขลา และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา ให้เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งสามารถช่วยเหลือออกมาได้ที่ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และได้นำเด็กมาคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพักเด็กฯ จังหวัดสงขลา ส่วนชายชาวโรฮิงญาได้หลบหนีไป ต่อมา หญิงดังกล่าวได้หายไปจากบ้านพักเด็ก จึงได้กำชับให้บ้านพักเด็ก ได้มีมาตรการในการเฝ้าระวังและดูแลความปลอดภัย ตลอดจนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัด ติดตามช่วยเหลือนำหญิงดังกล่าวมาให้กระทรวงฯ พม. คุ้มครองสวัสดิภาพ และเร่งรัดจับกุมผู้กระทำความผิดโดยด่วนต่อไป” นางปวีณา กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีชายชาวโรฮิงญา 2 คน มาให้ข้อมูลในเรื่องมีนายหน้าจากประเทศเพื่อนบ้านชาวโรฮิงญามาหลอกลวง เพื่อนำชาวโรฮิงญาเดินทางไปประเทศที่ 3 และเรียกรับเงินจากชาวโรฮิงญา โดยผ่านประเทศไทย จึงขอให้รองผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 9 ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง และผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เร่งรัดดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้ผู้กระทำผิดถูกจับกุมตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานสหประชาชาติ หรือ UNHCR ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อการดูแลชาวโรฮิงญา ที่หลบเข้ามาได้ประเทศไทย และทางการได้ให้ที่พักพิงเป็นการพำนักชั่วคราว โดยทางสหประชาชาติ หรือ UNHCR ขอเวลา 6 เดือน ที่จะหาประเทศที่ 3 ให้แก่ชาวโรฮิงญา แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีท่าที และยังไม่สามารถจะทำอะไรได้