xs
xsm
sm
md
lg

ธนาคารเลือด จชต.ขาดแคลนหนัก เหตุถูกสำรองใช้วิกฤตการเมืองในกรุงเทพฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นราธิวาส - ธนาคารเลือดโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ขาดแคลนเลือดอย่างหนัก เผยสภากาชาดส่งเลือดมาน้อยลง เนื่องจากต้องสำรองไว้ใช้ในสถานการณ์ทางการเมืองที่กรุงเทพฯ แพทย์ชี้บริจาคเลือดไม่อันตรายช่วยป้องกันโรคไขกระดูก แนะควรบริจาค 2 ครั้งต่อปี

วันนี้ (27 ก.พ.) นายประกิจ เอกธีรมงคล นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำธนาคารเลือดโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารเลือดโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ประสบปัญหาการขาดแคลนเลือดอย่างหนัก โดยเฉพาะเลือดกรุ๊ปเอบี ที่จะใช้สำหรับการรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ 4 อำเภอรับผิดชอบ ประกอบด้วย อ.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงปาดี อ.แว้ง อ.สุคิริน และบางส่วนของ อ.ตากใบ ที่เป็นพื้นที่เขตรอยต่อของ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ เนื่องจากกลุ่มนักเรียนที่เป็นกลุ่มหลักที่บริจาคโลหิตไม่สามารถบริจาคเลือดได้ในระยะนี้เพราะต้องเตรียมตัวสอบ

ขณะที่การออกรับบริจาคโลหิตตามพื้นที่ต่างๆ ก็สามารถนำเลือดมาใช้ได้ในระยะเวลาจำกัด ประกอบกับมีการบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทยน้อยลง และต้องสำรองเลือดไว้ใช้ในสถานการณ์ความขัดแย้งการเมืองที่กรุงเทพฯ ทำให้สามารถส่งเลือดมาให้อย่างจำกัด สวนทางกับความต้องการใช้เลือดของโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก และโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีทั้งผู้เจ็บป่วย และผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบ ซึ่งจำเป็นต้องมีเลือดไว้ใช้ในกรณีเร่งด่วนเป็นจำนวนมาก

นายประกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันนี้โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จำเป็นต้องใช้เลือดเฉลี่ยเดือนละ 250 ถุง หรือ 87,500 ซีซี แต่จากการเปิดรับบริจาคโลหิตที่ธนาคารเลือดของโรงพยาบาล และการไปออกหน่วยนอกพื้นที่จะได้รับบริจาคมาเพียงเดือนละประมาณ 100 ถุง หรือ 35,000 ซีซีเท่านั้น ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีอายุตั้งแต่ 17-60 ปี ไปบริจาคโลหิตที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โดยสามารถบริจาคโลหิตได้ที่ธนาคารเลือด โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา และโรงพยาบาลเบตง จังหวัดยะลา และโรงพยาบาลปัตตานี จังหวัดปัตตานี หรือในการจัดกิจกรรมออกรับบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวันที่ 5 ธันวาคม 12 สิงหาคม และ 2 เมษายน ที่สโมสรไลออนส์สุไหงโก-ลก สโมสรไลออนส์สตรีสุไหงโก-ลก และเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส ร่วมออกรับบริจาคโลหิตในพื้นที่ก็ได้ด้วยเช่นกัน

ซึ่งขอยืนยันว่า การบริจาคโลหิตไม่ได้เป็นอันตรายต่อชีวิต เนื่องจากเม็ดเลือดแดงที่อยู่ในร่างกายจะมีอายุเพียง 120 วันแล้วก็จะหมดอายุไป จึงควรบริจาคโลหิต 3 เดือนต่อครั้ง หรือ 2-4 ครั้งต่อปี โดยหากมาบริจาคโลหิตก็จะทำให้ไม่เสียเลือดไปโดยสูญเปล่า อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นไขกระดูกให้ทำงานดีขึ้น ทำให้เป็นผลดีต่อตัวผู้บริจาคโลหิตเอง และยังเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ในการต่อชีวิตให้เพื่อนมนุษย์ เพราะยังไม่มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ใดที่จะพัฒนาสิ่งใดมาทดแทนการใช้เลือดที่หล่อเลี้ยงร่างกายได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับเลือดที่ได้รับบริจาคมา ภายหลังการส่งไปตรวจสอบที่ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 12 จ.สงขลาแล้ว จะสามารถเก็บรักษาเม็ดเลือดแดงเข้มข้นในอุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส ไว้ได้เป็นเวลา 35 วัน และน้ำเหลืองแช่แข็งที่ปั่นแยกออกมาจากเลือด ในอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 ปี ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีเลือดเข้ามาสำรองในธนาคารเลือดอย่างต่อเนื่องทดแทนเลือดใกล้หมดอายุที่จะมีการกระจายไปตามโรงพยาบาลต่างๆ โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา เพื่อให้เลือดที่ได้รับบริจาคมาได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ตามวัตถุประสงค์ของผู้ที่บริจาคโลหิตมาให้

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น