ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พลทหารที่ก่อเหตุฆ่าหมู่ 3 ศพแฟนสาว พร้อมตากับยาย เข้ามอบตัวแล้ว สารภาพแค้นที่แฟนสาวยกเลิกขันหมากไม่ให้ไปสู่ขอ ด้วยความรัก และความแค้นจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น และยอมรับผิดขอชดใช้กรรมที่ก่อขึ้น
ความคืบหน้าคดี พลทหารพิศาล สุขกาล อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 5 อ.นาทวี จ.สงขลา ก่อเหตุฆ่าหมู่ 3 ศพ น.ส.แพรงาม ฉิมพินิจ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภาคพิเศษ หรือ กศ.บป.คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา แฟนสาว พร้อม นายเอี่ยม เพชรสี อายุ 70 ปี และนางเอื้อม เพชรสี อายุ 70 ปี ตากับยายของแฟนสาว โดยใช้อาวุธปืนขนาด .357 จ่อยิงเข้าที่ศีรษะทั้ง 3 คน เหตุเกิดที่บ้านไม่มีเลขที่พื้นที่หมู่ 4 ต.ท่าโพธ์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (24 ก.พ.) พ.ท.ชลัช ศรีวิเชียร ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 5 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา พร้อมด้วยพ่อแม่แ ละญาติของ พลทหารพิศาล ได้นำตัว พลทหารพิศาล มายัง สภ.คลองแงะ อ.สะเดา เพื่อเข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา และ พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทร์ ผู้กำกับการ สภ.คลองแงะ แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวน และแจ้ง 3 ข้อหาคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตพกพา
จากการสอบสวน พลทหารพิศาล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าสาเหตุที่ลงมือฆ่าแฟนสาว พร้อมด้วยตากับยายทั้ง 3 คน เนื่องจากโกรธแค้นที่แฟนสาวยกเลิกขันหมากการไปสู่ขอ และหมั้นหมาย ซึ่งได้มีการนัดหมายญาติของทั้ง 2 ฝ่ายไปสู่ขอในช่วงเช้าของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ก่อนวันเกิดเหตุเพียง 1 วัน ซึ่งทุกอย่างได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว
ในคืนเกิดเหตุได้โทรศัพท์ไปหาแฟนสาวเพื่อสอบถามเรื่องการที่จะไปสู่ขอในวันรุ่งขึ้น แต่แฟนสาวไม่รับสาย ด้วยความเป็นห่วงตนจึงขับรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร ไปหาที่บ้านพัก แต่กลับถูกแฟนสาวบอกยกเลิกการไปสู่ขอ และบอกเลิกตัดความสัมพันธ์ โดยไม่เหลือเยื่อใยแม้จะพยายามสอบถามถึงเหตุผลแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคุยด้วย ด้วยความรัก และความโกรธแค้นและอารมณ์ชั่ววูบที่ถูกบอกเลิกจึงได้ชักอาวุธปืนขนาด.357 ที่พกมาจ่อยิงแฟนสาวกลางหน้าผาก 1 นัด และด้วยความโกรธ และระงับอารมณ์ไม่อยู่ จึงได้กระหน่ำยิงตากับยายที่อยู่ในบ้านเสียชีวิตด้วย ซึ่งขณะนั้นตนไม่มีสติ และมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไปพร้อมกับโยนอาวุธปืนทิ้งระหว่างทาง นำรถไปฝากไว้กับเพื่อน และหลบหนีไปกบดานอยู่ในป่าสวนยางพาราในพื้นที่ อ.สะเดา ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ามอบตัว
พลทหารพิศาล กล่าวว่า เหตุที่ทำไปเพราะความผิดหวัง และรักแฟนสาวคนนี้มากเงินเดือนทหารเกณฑ์ก็ยกให้หมด และวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาก็ยอมขายแหวนนามสกุลเพื่อนำไปซื้อของขวัญให้แก่แฟนสาว แต่กลับถูกยกเลิกขันหมากไม่ให้ไปสู่ขอโดยไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุใด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ รักและตกลงกันว่าจะใช้ชีวิตร่วมกัน ด้วยความรักที่มีให้และความโกธรจึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งหลังเกิดเหตุตนยอมรับผิดในสิ่งที่ทำลงไป และขอชดใช้กรรมและกระบวนการของกฎหมาย
หลังการเข้ามอบตัวตำรวจได้ควบคุมตัว พลทหารพิศาล ไปค้นหาปืนของกลางตามเส้นทางที่หลบหนี และจะส่งตัวให้แก่นายทหารพระธรรมนูญเพื่อดำเนินการตามกฎของทหารต่อไป