ผ่าประเด็นร้อน
กลายเป็นเรื่องฮือฮาน่าติดตามขึ้นมาอีกรอบ หลังจากปรากฏข่าวกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติในชื่อ “อัลกออิดะห์” ได้โพสต์ขู่สังหาร “ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นมาอีกรอบ ฐานเชื่อว่าเป็นคนอยู่เบื้องหลัง “การฆ่าหมู่” ในมัสยิดกรือเซะ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ที่บอกว่าอีกรอบนั้น เป็นเพราะก่อนหน้านี้เมื่อหลายเดือนก่อน กลุ่มที่อ้างชื่อกลุ่มเดียวกันนี้ได้โพสต์ในลักษณะเดียวกัน ขู่สังหารมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยคราวนั้นยกเอาเหตุการณ์การฆ่าพี่น้องมุสลิมที่ “ตากใบ” จนมีความเคลื่อนไหวจากฝ่ายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตามมาในลักษณะที่เรียกว่า “พล่าน” กันเลยทีเดียว
นั่นคือถึงกับต้องนำ “คณะฝ่ายความมั่นคง” ไปเยือนปากีสถาน เพื่อเคลียร์เรื่องดังกล่าวโดยตรง เนื่องจากปากีสถานมีพื้นที่ติดต่อกับอัฟกานิสถาน ที่มีกลุ่มอัลกออิดะห์เคลื่อนไหวอยู่
คราวนั้นหากจำกันได้ เป็นการเดินการไปเยือนแบบกะทันหัน และประเทศปากีสถานก็อยู่นอกเส้นทางการเดินทางไปเยือนต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ฝ่ายความมั่นคงที่เลือกนำไปก็ล้วนแล้วแต่ “คนกันเอง” ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง ไปด้วย
แต่ล่าสุดกลับมีข่าว “ขนหัวลุก” ขึ้นมาอีกว่า ทักษิณ ชินวัตร ถูกขู่ฆ่าอีก โดยกลุ่มโจรก่อการร้ายกลุ่มเดียวกัน เพียงแต่ว่าคราวนี้ยกเอาเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะขึ้นมาเป็นสาเหตุ ซึ่งต่อมา พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช. ก็ได้ออกมายอมรับว่าเรื่องดังกล่าว “มีมูล” และกำลังตรวจสอบอยู่
คำว่า “มีมูล” นั่นก็ย่อมหมายความว่า มีความเป็นไปได้ว่าเป็น “ของจริง” มากกว่า “กุเรื่อง” ขึ้นมาลอยๆ เพราะมันก็เป็นไปได้เหมือนกันว่าต้องการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์การเมืองที่เกิด “มวลมหาประชาชน” กำลังชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เครือข่ายของระบอบทักษิณ แต่เมื่อมีการยอมรับว่ามีมูลแบบนี้ มันก็สามารถวิเคราะห์ไปอีกทางหนึ่งได้ว่า คนอย่างทักษิณกำลังตกอยู่ในอันตราย อาจถึงขั้นถูกลอบสังหารได้อย่างไม่รู้ตัว เมื่อใดก็ได้ และเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ ในโลกนี้
แม้ว่าการลอบสังหารจะไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากมีหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ไว้ใจได้ ล้อมหน้าล้อมหลังมากมาย แต่ของแบบนี้มันก็ย่อมมีวัน “เผลอ” อาจตายได้ง่ายๆ เหมือนกัน
ขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องพิจารณากันต่อไปก็คือ หากข่าวนี้มีมูล รับรองว่าย่อมมีผลต่อการเคลื่อนไหวของทักษิณ ที่ไม่อาจไปไหนมาไหนได้โดยสะดวก ซึ่งนั่นย่อมหมายถึงผลกระทบต่อการ “บัญชาการเกม” ในการรักษารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่อาจทำได้สะดวก เพราะที่ผ่านมา เขาสามารถเดินทางมา “เกาะรั้ว” ในแถบประเทศเพื่อนบ้านของไทย อย่างล่าสุดมาปักหลักอยู่ที่สิงคโปร์ หรือแม้แต่ฮ่องกงก่อนหน้านี้ ทำให้การติดต่อสื่อสาร หรือการเรียกหาเรียกใช้บรรดาขี้ข้าทำได้สะดวก รับรู้ผลได้เร็ว
แต่ฉับพลันที่มีการขู่ฆ่าแบบนี้ขึ้นมา มันก็ย่อมทำให้ต้อง “ชะงัก” ขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยก่อนการเดินทางไปไหนมาไหน ก็ต้องเคลียร์พื้นที่กันอย่างเข้มข้น เช็กแล้วเช็กอีก ประกอบกับคนที่มีนิสัยขี้ขลาดอย่างทักษิณ ชินวัตร ยิ่งต้องทำเป็นสองเท่า หรืออย่างน้อยต่อไปจะไม่กล้าอยู่ที่ไหนนานๆ แน่นอน
กลายเป็นว่าเวลานี้ ทักษิณ กำลังอยู่ในภาวะอันตราย ไม่กล้าเคลื่อนไหวโดยพลการเหมือนเก่า และถือว่านี่คือภาวะที่ “ถดถอย” หลายเรื่องกำลังประดังกันเข้ามาพร้อมๆ กันอย่างไม่น่าเชื่อ ที่เห็นได้ชัดก็คือ ภาวะไร้อำนาจของรัฐบาลน้องสาวตัวเอง ที่กำลังถูกรุมล้อมขับไล่ทุกทิศทาง
ล่าสุด กลุ่มชาวนาทั่วประเทศได้ลุกฮือเข้ามาในกรุงเทพมหานคร เพื่อทวงหนี้จากโครงการจำนำข้าว ทำให้ตัวเธอต้อง “ขังตัวเอง” อยู่แต่ในห้องไม่กล้าออกไปไหนแล้ว ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่คิดว่าจะใช้ฟอกตัวเอง และอ้างเสียงข้างมากกลับเข้ามามีอำนาจอีกครั้งก็ “ฝันสลาย” ทันที ทุกอย่างผิดเพี้ยนไปหมด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อทักษิณมาถูกขู่ฆ่า และมีการยอมรับว่า “มีความเป็นไปได้” มันก็ยิ่งทำให้กลัวจน “ขี้ขึ้นสมอง” มีผลต่อการเคลื่อนไหวสั่งการ เพราะต่อไปนี้ไม่กล้าออกไปไหนเพ่นพ่าน ทุกอย่างเริ่มตีบตันแล้วจริงๆ!!