ศูนย์อนุรักษ์ฯ ตรัง เตรียมทำประชาพิจารณ์จัดโซนนิ่งให้พะยูน

ตรัง - ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 จังหวัดตรัง เตรียมทำประชาพิจารณ์กับชาวประมงชายฝั่งเพื่อจัดโซนนิ่ง ควบคู่กับการให้ความรู้ในการอนุรักษ์ หลังพบพะยูนตายไปแล้ว 2 ตัว เฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ในขณะที่ปี 2556 ตายไป 5 ตัว

วันนี้ (11 ก.พ.) นายประจวบ โมฆรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ในปี 2556 ที่ผ่านมา มีพะยูนตายไป จำนวน 5 ตัว และมีโลมาตายไปจำนวน 7-8 ตัว ทั้งนี้ จากการสำรวจประชากรของพะยูนพบว่า เหลืออยู่ในท้องทะเลตรัง จำนวน 125-130 ตัว โดยอาศัยอยู่มากที่สุดที่บริเวณอ่าวเจ้าไหม ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ของหญ้าทะเล และที่มีเนื้อที่กว่า 1 หมื่นไร่ สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้พะยูนเสียชีวิต มาจากการติดอวนของชาวประมง เนื่องจากแหล่งหากินของพะยูนนั้นอยู่ใกล้กับแหล่งทำประมง จึงทำให้ติดอวนของชาวประมงได้ง่าย เฉพาะล่าสุด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 นี้ พบพะยูนเสียชีวิตมาแล้ว จำนวน 2 ตัว โดยตัวแรกเป็นพะยูน เพศเมีย อายุประมาณ 10 ปี หนักประมาณ 100 กก. และตัวล่าสุด เป็นพะยูน เพศผู้ อายุประมาณ 13-15 ปี หนักประมาณ 180-200 กิโลกรัม

ในส่วนของแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อลดการเสียชีวิตของพะยูนนั้น ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลเเละชายฝั่งที่ 6 จังหวัดตรัง ได้เตรียมแผนทำประชาพิจารณ์กับชาวประมงชายฝั่ง ในการจัดโซนนิ่ง ควบคู่ไปกับการให้ความรู้ในการอนุรักษ์พะยูน ทั้งนี้ ชาวประมงชายฝั่งได้ให้ความวางใจเป็นอย่างมาก และพร้อมช่วยจัดชุดลาดตระเวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจตราเข้มงวด และจับกุมเรือประมงที่ใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังพบว่าพะยูนได้มีการอพยพย้ายถิ่นจากท้องทะเลตรัง ไปอยู่ที่บริเวณจังหวัดกระบี่ เนื่องจากมีแหล่งหญ้าทะเลที่มีความอุดมสมบูรณ์เทียบเท่าจังหวัดตรัง และถูกรบกวนจากเรือประมงน้อยกว่าที่จังหวัดตรัง ดังนั้น หากไม่มีการอนุรักษ์กันอย่างจริงจัง ก็อาจจะทำให้พะยูนซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน และเป็นสัญลักษ์ประจำจังหวัด ต้องสูญหายไปจากท้องทะเลตรัง หรืออาจจะเหลือแค่เพียงรูปปั้นเท่านั้น